ยกให้เป็นอีกคนที่โดนดราม่าถล่มต่อเนื่อง สำหรับ ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ อดีตภรรยา ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งตั้งแต่ช่วงก่อนเลือกตั้ง กระทั่ง ทิม กลายเป็นหนุ่มฮอตพร้อมก้าวขึ้นสู่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ทุกครั้งที่ ต่าย ให้สัมภาษณ์ประเด็นที่ดูเหมือนจะสามารถตีความหรือโยงใยไปถึงอดีตสามีได้ ก็มักเรียกรถทัวร์มาลงหน้าบ้านแบบฉ่ำ ๆ เสมอ วันนี้ “บันเทิงเดลินิวส์” ขอมัดรวม 5 ดราม่าสุดร้อนแรงที่ ต่าย ได้ออกมาตอบโต้ มาฝากกัน

สักปากสีส้ม

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา “บุ๋ม บิวตี้บูม” ช่างเสริมความงาม ได้โพสต์ภาพอดีตภรรยา ทิม พิธา มาสักสีปากกับเธอ พร้อมระบุว่า “คุณต่าย ชุติมา มาสักปากสีส้ม อย่าเพิ่งแซงคิว เพราะแม่ต่ายคิวแรก สักปากสีส้ม = ก้าวไกล” งานนี้ทำเอาโลกโซเชียลแห่แซว อาทิ ให้ต่ายต่อคิว รวมถึง รบกวนรับบัตรคิวใหม่ เป็นต้น

ต่อมา ต่าย ได้มาโพสต์ในไอจี ต่อประเด็นนี้ว่า ซึ่งระบุว่า “คนถามเยอะเหลือเกิ๊น!! สักปากไปตั้งแต่ สิงหาคม ปีที่แล้ว ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เป็นคนผิวเหลืองเลยต้องแต่งหน้าโทนส้ม (ตอนสักมีให้เลือกแค่สีส้ม กับสีชมพู) จะเลือกพรรคไหนไม่จำเป็นต้องสักปากสีนั้นนะจ๊ะ ที่นี่เขาสักสวยธรรมชาติจริง” ก่อนใส่แฮชแทค #จบข่าว #สำนักข่าวเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรายงาน งานนี้เลยมีทัวร์แบบไปลงที่ร้านเบา ๆ ข้อหาที่ลงข้อความชวนเข้าใจผิด แถมถามก็ยังไม่ชี้แจงตอบ

เคลียร์สารพันดราม่ารักครั้งใหม่

หลังจากที่ ต่าย ออกมาเปิดใจครั้งแรกในรายการ “แย่งซีน” ที่มี แพรรี่ – ไพรวัลย์ วรรณบุตร เป็นพิธีกร ซึ่งได้ถามเรื่องความรักในตอนนี้ และเธอเผยว่ามีคนคุกเข่าขอแต่งงานอีกครั้งแล้วเมื่อปีก่อน แต่ ต่าย ปฏิเสธไป พร้อมบอกอีกว่าแหวนที่ใส่อยู่คือแหวนที่เขาขอ แต่ผิดไซส์ เลยใส่นิ้วนี้แทน

นอกจากนี้ได้เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง ในรายการ “ซุปตาร์พาตะลุย” ที่มี นิกกี้ ณฉัตร เป็นพิธีกร โดย ต่าย ได้เล่าโมเมนต์ที่มีหนุ่มมาคุกเข่าแต่งงานเมื่อปีที่แล้วอีกครั้ง โดยเธอบอกดู ๆ กันไป เสียใจที่ไม่ได้เซย์เยสตอนนั้น ซึ่ง ต่าย ได้คุยกับหนุ่มคนนี้มาหลายปีแล้ว ก่อนบอกอีกว่า ทำไมไม่มีใครสั่งสอน คนขอแต่งงานก็ตอบตกลงไปเลยทุกคน

ส่วนที่ยังไม่ตกลง ต่าย ยอมรับว่าตอนนั้นไม่แน่ใจ รู้สึกว่าครั้งที่สองมันต้องชัวร์ ต้องคิดเยอะ นอกจากนี้ ต่าย ยังบอกใบ้เพิ่มอีกว่าเป็น เป็นหนุ่มนอกวงการ โตกว่า และเขายังอยู่ในชีวิตของเธอ และยังได้เผยถึงสิ่งที่เธออยากบอกคนที่มาคุกเข่าว่าด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ว่า อยากขอโทษ ในสิ่งที่เรางอแงไปตอนนั้น รู้สึกผิด พร้อมพูดติดตลกว่า เดี๋ยวร้องไห้ ต้องแต่หน้าใหม่นะ

ซึ่งหลังจากนั้น ต่าย ได้โพสต์รูปซบไหล่แบบแนบชิด กับหนุ่มปริศนาคนหนึ่ง จนทำให้หลายคนสงสัยในความสัมพันธ์ กระทั่งมีเว็บข่าวนึงระบุ หัวข้อข่าวว่า “ไม่ต้องสงสัยแล้ว ต่าย ชุติมา เปิดหน้า โพสต์สตอรี่รัวๆ ซบคนรู้ใจ” งานนี้ ต่าย ไม่รอช้า แคปภาพข่าวดังกล่าวมาโพสต์ลงในไอจีสตอรี่ พร้อมเขียนข้อความเดือด ๆ ว่า “มั่วไปได้เรื่อยๆ”

ต่อมา ต่าย ได้ออกมาเคลียร์อีกครั้ง หลังมีเว็บข่าวลงข่าวว่า “หมดโอกาสคืนดีกันแล้ว วงในเผย คนคุยใหม่ ต่าย ชุติมา เป็นคนนอกวงการ หน้าตาดีหล่อ” และยังมีภาพของ ต่าย กับ ทิม พิธา ประกอบข่าว งานนี้เจ้าตัวระบุแคปชั่น “หยุดนั่งเทียนเถอะค่ะ ถือว่าแม่ขอร้องงงงงงงงงนะนะนะนะนะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ต่าย ได้ไปออกรายการ “คุยแหลกแดกดึก” ของ มดดำ คชาภา ตันเจริญ เธอได้ยืนยันว่าตอนนี้ยังโสด ส่วนความสัมพันธ์กับ ทิม นั้นตอนนี้ก็เป็น “คุณพ่อคุณแม่ของลูก” และแฮปปี้ทั้งคู่ และที่ ทิม เอาเพลง “ขอจันทร์” ไปร้องในรายการ ซึ่งตรงกับที่ ต่าย ลงในไอจีนั้น เป็นเพราะ ทิม อาจร้องเพลงได้ไม่กี่เพลง และเป็นเพลงประจำของเขามากกว่า ก่อนบอกอีกว่า อยากเห็นอีกฝ่ายได้เป็นนายกฯ อยากเห็นประเทศเจริญก้าวหน้า ยืนยันไม่เสียดายที่ตอนนี้ ทิม กลายเป็นหนุ่มฮอต บอกว่าดีแล้ว ให้เขาเป็นขวัญใจของประชาชนไป มันเป็นเรื่องราวในอดีต ปัจจุบันก็ปวดหัว จะเอาอดีตมาปวดหัวด้วยก็ไม่ไหว ถ้าเจอคนที่ใช่ ใจก็จะบอกว่าคนนี้แหละ โดยที่ไม่ต้องไปถามประวัติเขา

นอกจากนี้ในรายการ ต่าย ยังได้เคลียร์ประเด็น ที่มีภาพ ทิม ร่วมเฟรมกับ แอฟ – ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ออกมา ซึ่งเธอตอบว่า นี่ก็เป็นเพื่อน แอฟ และ แอฟ ก็มาบอกว่าอย่าคิดมากนะ ซึ่ง ต่าย ก็บอกว่าไม่ได้คิดอะไรเลย ตามสบาย ก่อน มดดำ จะบอกว่าทั้งคู่สนิทกัน ตอนที่ลูกสองคนเล็ก ๆ ก็ไปเล่นกันที่บ้านเขาใหญ่

ทั้งนี้หลังออกรายการ “คุยแหลก แดกดึก” ที่มีบางช่วงบางตอนที่ต่ายอัพเดทเรื่องความรัก และมีสื่อนึงลงข่าวคลาดเคลื่อนไป ทำให้ ต่าย ได้แคปภาพข่าวจากสื่อดังกล่าว มาโพสต์ผ่านไอจี และขีดเส้นใต้เน้นประโยคที่ว่า เจ้าตัวหัวใจไม่ว่าง กำลังคุยๆ อยู่กับหนุ่มที่อายุน้อยกว่าถึง 12 ปี โดยผู้ชายคนนี้อายุ 22 ปี ก่อนระบุแคปชั่นย้ำหนักแน่นว่า “พูดตอนไหนคะว่าคุยอยู่ !? ข่าวเดี๋ยวนี้ก็คือเขียนตามที่อยากจะเขียน หรือเขียนตามความรู้สึก ไม่ได้เขียนตามความจริง ??? อยากรู้ความจริงมาอ่าน #สำนักข่าวเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย นะคะนะคะนะคะ”

แหวน “พิธา” เล็กกว่า

ครั้งนึงเมื่อ ต่าย ได้ไปไลฟ์ขายของกับ ครูเบียร์ นุติญา ช่วงนึงมีคนสังเกตแหวนที่นิ้วของ ต่าย จึงได้คอมเมนต์ถามว่า “แหวนพ่อไหม” ด้าน ต่าย ก็ตอบว่าไม่ใช่ มันเหมือนกัน แต่ว่าอันนั้นเล็กกว่า พร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี งานนี้เลยเรียกรถทัวร์มาลง ชาวเน็ตคอมเมนต์สนั่น ถึงคำพูดที่ดูไม่ให้เกียรติอดีตสามี อาทิ นี่เหรอคือคนที่ด้อมฝั่งโน้นเชียร์ให้กลับไปคืนดีกับพ่อ บอกเลยว่าไม่ได้สุดๆ ใช้หางตาส่วนไหนคิด , จำคำพูดด้วยนะ เล็กกว่าแต่ซื้อด้วยความรักมาก รักที่สุดนะ , วันนี้พ่อมาไกลมากแล้ว ผู้หญิงที่คู่ควรกับพ่อ ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน วันนี้พ่อเลือกเส้นทางชีวิตถูกแล้ว และ พ่อส้ม ของคนใหม่ขอเม็ดใหญ่เท่าฝาบ้านให้สมกับสตรีหมายเลขหนึ่งนะคะพ่อ เป็นต้น ขณะที่กองเชียร์ของ ต่าย ก็ออกมาตอบโต้ว่า ต่ายแค่พูดเล่น ทำไมถึงแยกแยะไม่ออก

อยากเริ่มต้นใหม่กับคนเดิม

กลายเป็นประเด็นถกกันสนั่นอีกครั้ง เมื่อครั้งที่ ต่าย ไปไลฟ์สดขายสินค้า และช่วงนึงได้ร้องเพลง ท่อนที่ว่า “ที่บอกเลิกวันนั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจ…” ซึ่งเป็นหนึ่งในท่อนเพลง “อยากเริ่มต้นใหม่กับคนเดิม” ของนักร้องสาว อิ้งค์​ วรันธร งานนี้จึงถูกชาวเน็ตจับโยงไปไกลถึงอดีตสามีทันที

ด้าน ต่าย จึงต้องออกมาโพสต์ไอจี เคลียร์ประเด็นนี้ว่า “เหตุการณ์คือมีคนมาคอมเม้นในไลฟ์ว่า ‘อยากเริ่มต้นใหม่กับคนเดิม’ แม่เลยถามว่าเพลงนั้นร้องแบบนี้หรือเปล่าคะ…..ไม่ได้ร้องให้ใครค่ะ ทำไมข่าวต้องแต่งเรื่องเพิ่มแม่ไม่เข้าใจค่ะ!!? #สำนักข่าวเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รายงาน”

ทัวร์ลงเพราะซีนโรแมนติก “จูบเท้า”

ล่าสุดเรียกรถทัวร์ลงเต็ม ๆ อีกครั้ง หลังจากที่ ต่าย ไปออกรายการ “ซานิเบาได้เบา” ที่มี ซานิ นิภาภรณ์ เป็นพิธีกร โดยได้เล่าถึงเรื่องราวความรักในวันวานกับอดีตสามี เมื่อ ซานิ ถามย้ำว่าคนที่ขอแต่งงานอีกรอบไม่ใช่ พี่ทิม ใช่มั้ย ซึ่ง ต่าย ก็ตอบติดตลกว่า “ไม่ใช่ ไม่มีมั้ง

รวมทั้งยังมีช่วงหนึ่งที่ ซานิ ได้บอก ต่าย ชอบคนโรแมนติกมาก ก่อนถามว่าอะไรที่เราคิดว่าเราเคยโดนทำให้แล้วรู้สึกโรแมนติก เจ้าตัวออกอาการเขินก่อนจะตอบว่า “จูบเท้า จูบด้วยความทะนุถนอม อย่าไปคิด 18 บวกไม่ใช่นะ เราก็ลูบหัวเขาอะไรแบบนี้ค่ะ…” อีกทั้งเล่าเรื่องเซอร์ไพร้ส์ที่เธอชอบ คือคนเขียนการ์ดให้ ส่วนที่ประทับใจคือสิ่งที่เขาได้เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า “เวลาที่ฉันคิดถึงเธอจะมีดอกไม้ขึ้นมาหนึ่งดอก งั้นตอนนี้ดอกไม้คือเป็นสวนแล้ว” แม้ไม่ได้ระบุชื่อว่าใคร แต่ ซานิ กลับบอกว่าเขียนเป็นภาษาอังกฤษแบบนี้ คงรู้นะว่าใคร…

ซึ่งหลังจากที่คลิปรายการถูกเผยแพร่ ต่าย ก็เจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก บางคนมองอว่าการจูบเท้าถือเป็นเรื่องในบ้าน การพูดออกมาเหมือนไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย ไปจนถึงในเรื่องความสัมพันธ์ ควรมีวุฒิภาวะในการตอบมากกว่านี้ เช่น ไม่มีวุฒิภาวะในการคิด และการตอบคำถามเลย เรื่องบางเรื่องก่อนพูดต้องคิดและทบทวนให้เยอะ ๆ ควรให้เกียรติอีกฝ่ายว่าสิ่งที่พูดออกมาแล้วนั้นจะมีผลกระทบต่อกันและกันไหม เพราะปัจจุบันไม่ได้อยู่ในสถานะสามีภรรยากันที่จะต้องเอาเรื่องส่วนตัวแบบนี้มาพูดให้สาธารณะได้ยิน วางตัวไม่ดีไม่เหมาะสม น่าจะนิ่งๆ มีสติและฉลาดพูดมากกว่านี้ จะได้เหมาะสมกับตำแหน่งและหน้าที่แม่ของลูก รวมทั้ง อยากให้ต่ายสัมภาษณ์ในรายการอื่นๆ พูดเรื่องผลงาน กิจการ การเลี้ยงลูก เรื่องความรักครั้งใหม่ก็พอค่ะ เรื่องคนเก่าที่เลิกกันแล้วก็คืออดีต อย่ามัวแต่พูดถึงอดีตเลยมันดูไม่ได้เป็นผลดีกับใคร นอกจากนี้ยังมีวิจารณ์ว่าทัศนคติไม่ดี และอยากให้หยุดพูดเรื่องเก่า ๆ ด้วย

งานนี้ ต่าย ไม่รอช้า โพสต์ข่าวที่ระบุว่าเธอโดนทัวร์ถล่ม ก่อนบอกว่า “จะถล่มเพื่ออะไรหรอคะ? จะดราม่าเพื่ออะไรคะ ? จะยิ้มสู้ทำไมคะ? งงค่า ขอแถลงแจ้งตรงนี้ว่าไม่เคยพูดประโยค “พิธา หรืออดีตสามีจูบเท้า” ค่ะ ใครมีหลักฐานไปแคปมาทีค่ะ ….ในรายการพิธีกรถามถึง “ประสบการณ์สุดโรแมนติกในชีวิตรักที่ผ่านมา” ต่ายเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในความทรงจำ ที่ประทับใจ ไม่เคยคิดว่า สิ่งที่เรารู้สึกดี จะทำให้คนฟัง ตีความ และ พาดพิงถึงบุคคลที่เราอาจจะไม่ได้เอ่ยถึงในชีวิตเรา รบกวนหากใครจะโยง ให้นึกถึงหัวอกของเราบ้างค่ะ รบกวนไปดูคลิปสัมภาษณ์ก่อนค่ะ ก่อนจะพิมพ์หรือพูดอะไร #สำนักข่าวเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รายงาน”

ท่ามกลางคอมเม้นต์ทั้งที่เห็นด้วยและให้กำลังใจ มองว่า ต่าย มีสิทธิ์พูด และคอมเมนต์ที่เห็นต่าง อีกทั้งยังบอกว่า เลิกพูดถึงอดีตสามี ดราม่าจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน และ พอมีกระแสตีกลับแม่ก็บอกว่าไม่ได้หมายถึงสามีเก่ามาแก้เอาที่ปลายเหตุ แต่ต้นเหตุคือ สมควรพูดหรือคะ เรื่องซีนโรแมนติกแบบนี้ ยิ่งแก้ข่าวแบบนี้อีกหน่อยพิพิมมาอ่านจะคิดว่าแม่เป็นยังไงคะ ไปให้ใครที่ไม่ใช่พ่อจุ๊บเท้า แม่ต้องแก้อีกยาวมั้ย นี่ไงที่พ่อน้องระวังมากๆ ในการพูดเพราะทุกอย่างจะอยู่ในอินเตอร์เน็ตไปอีกนานเลย รวมทั้ง ทางออกคือเปิดตัวคนใหม่ที่จูบเท้าค่ะ คนมโน สื่อมโน ว่าเป็นพ่อน้องพิพิม ก่อนที่อดีตสามีจะเข้าใจผิดและโกรธ เพราะเนื่องปฏิสัมพันธ์ ความทรงจำในอดีตไม่สมควรเอามาเปิดเผยต่อสังคม เพราะสิ้นสุดสถานภาพสมรสแล้ว ต่อไปต้องหลีกเลี่ยงหรือตกลงกับสื่อมวลชน หรือผู้ดำเนินรายการว่าห้ามชวนคุยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอดีตสามี เขาจะได้ไม่กล้าถาม เป็นต้น

ภาพ :ไอจี tye.chutima