สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ว่าบริษัท ไคลม์เวิร์กส ( Climeworks ) ของสวิตเซอร์แลนด์ และ "คาร์บฟิกซ์" ( Carbfix ) ของไอซ์แลนด์ ประกาศการเดินเครื่องโรงงาน "ออร์กา" ตั้งอยู่ชานกรุงเรคยาวิก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ
Today our vision becomes reality.
— Climeworks (@Climeworks) September 8, 2021
With our Icelandic partners @Carbfix and ON Power, we launch #Orca, the world's first large-scale #DirectAirCapture and storage plant.
The launch will be live-streamed at 5pm CET / 3pm GMT / 11am EST via the link below: https://t.co/6oEAtK0ZlG pic.twitter.com/zOA5UNUshE
โรงงานดังกล่าวซึ่งมีชื่อหมายความว่า "พลังงาน" ตามภาษาไอซ์แลนด์ จะใช้พัดลมขนาดยักษ์ดูดอากาศเข้าสู่พื้นที่จัดเก็บซึ่งมีระบบป้องกันอย่างแน่นหนา เพื่อไม่ให้อากาศหลุดรอดสู่ภายนอก จากนั้นเข้าสู่กระบวนการสกัด ซึ่งใช้ระบบเครื่องกรองพิเศษ ร่วมกับความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงถึง 100 องศาเซลเซียส เพื่อแยกก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปผสมกับน้ำ จากนั้นใช้อัดสิ่งที่ได้ให้เป็นของแข็งแล้วฝังลงในพื้นดิน เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน
The world's largest plant that sucks carbon dioxide directly from the air and deposits it underground is due to start operating on Wednesday, the company behind the nascent green technology said. https://t.co/nfuRH4PwW6
— Reuters Science News (@ReutersScience) September 8, 2021
ทั้งนี้ รายงานของไคลม์เวิร์กสระบุว่า กระบวนการทำงานของโรงงานแห่งนี้สามารถดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงสุด 4,000 ตันต่อปี เทียบเท่าปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ปล่อยออกมาโดยรถยนต์ 790 คัน ตามการวิเคราะห์โดยองค์กรพลังงานระหว่างประเทศ ( ไออีเอ ) ซึ่งระบุด้วยว่า ปัจจุบันบนโลกมีเครื่องดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยตรงลักษณะนี้ 15 แห่ง สามารถคัดกรองก๊าซพิษได้รวมกันประมาณ 9,000 ตันต่อปี แต่เฉพาะเมื่อปีที่แล้ว กิจกรรมหลายประเภทบนโลกส่งผลให้มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลอยสู่ชั้นบรรยากาศรวมกันมากถึง 31,500 ล้านตัน.
เครดิตภาพ : REUTERS