สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ว่า นายจอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันได้รับแจ้งในเบื้องต้นจากยูเครน เกี่ยวกับการใช้คลัสเตอร์บอมบ์ หรือระเบิดลูกปราย “ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ”
ทั้งนี้ กองทัพยูเครนยืนยัน การได้รับคลัสเตอร์บอมบ์ชุดแรกจากสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยให้คำมั่นว่า จะไม่ใช้อาวุธดังกล่าวในเขตชุมชน หรือพื้นที่มีประชากรอาศัยอยู่มาก
The US will supply Ukraine with cluster bombs, despite the controversial weapon being banned by more than 100 countries and criticism by Human Rights Watch.
— Al Jazeera English (@AJEnglish) July 17, 2023
Military expert @purisamir1 explains the effects of cluster bombs ⤵️ pic.twitter.com/q7y2CP1MWe
อนึ่ง คลัสเตอร์บอมบ์จัดเป็นหนึ่งใน “อาวุธต้องห้าม” ตามสนธิสัญญาออสโล ฉบับปี 2551 อย่างไรก็ตาม มีหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐ รัสเซีย และยูเครน ที่ไม่ได้ร่วมเป็นภาคีของข้อตกลงฉบับนี้
ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า กองทัพรัสเซียมีคลัสเตอร์บอมบ์หลากหลายรุ่นอยู่ในคลังแสงเช่นกัน ดังนั้น หากอีกฝ่ายใช้อาวุธดังกล่าว รัฐบาลมอสโกขอสงวนสิทธิ์อย่างไม่ลังเล ที่จะ “ตอบโต้ในระดับเดียวกัน”
ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าสะท้อน “ความอ่อนแอและความสิ้นหวัง” ของรัฐบาลวอชิงตัน และบรรดาพันธมิตร ที่มีต่อความล้มเหลวของปฏิบัติการโต้กลับ ซึ่งยูเครนยังคงพยายามเดินหน้า และเน้นย้ำว่า เรื่องนี้ “ไม่มีผลอย่างแน่นอน” ต่อปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียที่กำลังดำเนินอยู่.
เครดิตภาพ : AFP