เมื่อวันที่ 21 ก.ค. นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาในรัฐคะยา หนีการสู้รบเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวชายแดนด้าน จ.แม่ฮ่องสอน เกือบ 10,000 คน ใน 5 พื้นที่ ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้จัดให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวในเขตพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จำนวน 3 พื้นที่ ได้แก่ บ้านเสาหิน 3,530 คน, บ้านอุนู 316 คน, บ้านจอปร่าคี 726 คน ส่วนพื้นที่บ้านพะเข่ อ.ขุนยวมอีก 1 พื้นที่ 874 คน และพื้นที่บ้านในสอย อ.เมืองแม่ฮ่องสอน อีก 1 พื้นที่ 3,771 คน รวมผู้ลี้ภัยที่เข้ามาอยู่ในฝั่งไทยแล้วขณะนี้ จำนวน 9,217 คน ซึ่งพื้นที่ปลอดภัยที่เราจัดให้ จะอยู่ห่างชายแดนไทยเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร

ปัจจุบันนี้ ทั้งเรื่องการสู้รบภายนอกประเทศและผู้ที่ลี้ภัยเข้ามายังไม่มีผลกระทบต่อราษฎรไทย เราดูแลทั้งเรื่องอาหาร สุขสภาพอนามัย ที่พักอาศัย โดยมี NGO เข้ามาช่วยดูแลด้วย รวมทั้งประชาชนชาวแม่ฮ่องสอนก็ได้มอบสิ่งของผ่านมาทางกาชาดจังหวัด กาชาดกิ่งอำเภอ ระบบการดูแลเข้าที่เข้าทางแล้วมีการจัดระเบียบการเข้าพัก สำรวจทะเบียนสำหรับพื้นที่บ้านใช้สอย ซึ่งมีศูนย์พักพิงชั่วคราวอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่มาอยู่ก่อน สถานภาพจะต่างจากผู้ที่มาใหม่ ส่วนผู้ที่มาใหม่ก็จัดให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว แยกจากศูนย์พักเพิงเดิมให้ไปอยู่อีกโซน

เมื่อเหตุการณสงบ เราก็จะให้เขากลับประเทศของเขา แต่ขณะนี้ภายในประเทศเมียนมายังมีการสู้รบกันอยู่ เรายังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ แต่ก็ได้มีการประสานไปยังประเทศเมียนมา อย่าให้มีการกระทบในฝั่งไทย เพื่อความปลอดภัยของประชาชนไทย ผู้ลี้ภัยขณะนี้มีเกือบ 10,000 คน จังหวัดยังดูแลได้ และเราได้มีการเตรียมแผนรองรับไว้และได้ประเมินสถานการณ์มาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นแผนปกติที่ปฏิบัติอยู่ ช่วงแรกประมาณ 1 เดือนเศษ ยังไม่มีผลกระทบมากนัก แต่ถ้านานกว่านี้ คงต้องประเมินสถานการณ์ต่อไปอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า จากแหล่งข่าวผู้นำระดับสูงกองกำลังทหารกะเหรี่ยงคะยา KA บอกว่า ทหารเมียนมาเสริมกำลังเข้าสู่พื้นที่รัฐคะยา บริเวณดอยสามเมือง รอยต่อรัฐฉานกับรัฐคะยา ตรงข้ามบ้านรักไทย ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ขณะที่ด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำสาละวิน ที่บ้านใหม่ยัวติ๊ด ทหารเมียนมาจำนวนมากเสริมกำลังเข้าสู่พื้นที่เช่นกัน และมีการสั่งห้ามราษฎรในหมู่บ้านดังกล่าวที่เหลือประมาณ 400 คน ห้ามออกนอกพื้นที่เด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถูกสังหารทันที ในส่วนของฐานปากเสือ หรือค่ายจ๊ะป๊ะซะ ที่อยู่ใกล้หมู่บ้านห้วยโปงเลา ตรงข้ามช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง ทหารเมียนมา 3 กองพัน ได้นำกำลังไปเสริมที่ฐานที่มั่นดังกล่าว เพื่อป้องกันการบุกเข้าโจมตีของกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา KA/KNDF

นอกจากนั้น เมื่อคืนที่ผ่านมา ทหารเมียนมา ฐานดอว์ตะแค ได้ตรวจพบการเคลื่อนไหวของกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา KA จึงได้มีการยิงอาวุธหนัก ค.120 มม. ใส่พื้นที่ที่พบการเคลื่อนไหวของฝ่ายต่อต้าน ทั้งนี้ทหารเมียนมาที่มาอยู่ที่ฐานฯ ดอว์ตะแค เป็นทหารที่มาจากกองพลทหารราบเบาที่ 55 รัฐฉาน ที่ถูกเสริมกำลังเข้ามาปราบปรามกลุ่มกะเหรี่ยงคะยา