นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด พร้อมด้วย นายสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าวศึกโคตรมวยไฟต์ถล่มโลก รายการ “THE MATCH OF LEGEND : PACQUIAO VS BUAKAW” การดวลกำปั้นระหว่าง 2 นักมวยในตำนานวงการมวยโลก ระหว่าง “เดอะแพ็กแมน” แมนนี่ ปาเกียว สุดยอดแชมเปี้ยนโลก 8 รุ่น ชาวฟิลิปปินส์ วัย 44 ปี และ “บัวขาว บัญชาเมฆ” ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ ยอดนักมวยขวัญใจชาวไทย วัย 41 ปี ร่วมประกาศความพร้อมดวลกำปั้นนัดประวัติศาสตร์ และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่ไอคอนสยามพาร์ค ชั้น 2 ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา

นายวินิจ เลิศรัตนชัย เปิดเผยว่า เรามีแนวคิดสร้างสรรค์อีเวนต์รูปแบบใหม่ที่ดึงดูดนักกีฬาเวิลด์คลาสมาจัดการแข่งขัน ซึ่งไฟต์นี้ถือเป็นแมตช์ประวัติศาสตร์ที่จะได้เห็น 2 ยอดมวยโลกดวลหมัดกัน ที่สำคัญเป็นครั้งแรกของบัวขาว ที่จะต่อยมวยสากล ซึ่งเป็นความท้าทายมาก ขณะที่ ปาเกียว เป็นนักมวยที่รู้จักกันทั่วโลก จึงเป็นปรากฏการณ์ที่เชื่อว่าวงการกีฬาโลกจะให้ความสนใจ และการปรากฏตัวของทั้งคู่ เป็นการยืนยันว่าไฟต์หยุดโลกจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในเดือน ม.ค. 2567

“เราได้ติดต่อกับปาเกียวเมื่อปลายปีก่อน และใช้เวลา 6-7 เดือน จนเกิดเป็นไฟต์นี้ ซึ่งจะชกกันในกติกาภายใต้สภามวยโลก WBC แต่จะมีความพิเศษของเดอะแมตช์ที่ตื่นเต้นและปลอดภัย ด้วยการชกมวยสากล กติกากลางระหว่างมวยสากลและมวยไทย โดยจะต่อย 6 ยก ยกละ 3 นาที พัก 2 นาที ยืนยันว่าชกจริง ชิงเงินรางวัลจริง นอกจากนี้ยังจะมีนักชกต่างชาติจากทั้งญี่ปุ่น, จีน และยุโรป มาร่วมชกในรายการนี้ 5-6 คู่”

นายวินิจ กล่าวต่อว่า ไฟต์นี้จะทุบสถิติโลกของคนไทยในการจัดชก โดยใช้เงินจัดทั้งหมดทั้งโปรเจกต์ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 860 ล้านบาท พร้อมถ่ายทอดสดไปทั่วทั้งโลก ที่จะมองมาที่มวยคู่นี้ ส่วนสถานที่ชกนั้นจะขึ้นอยู่กับไทม์โซน และเราจะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้ง รวมทั้งวันชกจะอยู่ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่วันนี้ปาเกียวและบัวขาว มาเซ็นสัญญา และประกาศยืนยันว่าจะมีขึ้นแน่นอน นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษสำหรับการน็อก ที่หากบัวขาวทำได้ เขาจะนำเงินเพื่อการกุศล โดยทางเฟรชแอร์ รวมทั้งพันธมิตรทั้งแอร์ เอเชีย, ไอคอนสยาม และเอส เอฟ ที่พร้อมเติมเงินรางวัลพิเศษให้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แน่นอน

ขณะที่ แมนนี่ ปาเกียว กล่าวว่า รู้จักบัวขาวในฐานะที่เป็นยอดนักมวยไทยที่เป็นโด่งดั่งไปทั่วโลก ถนัดเข่าศอก ต่างจากมวยสากลที่ใช้หมัด ทำให้บัวขาวคงต้องไปซ้อมหนัก แต่ยังพอมีเวลา ส่วนตัวนั้นก็ชื่นชอบมวยไทย และเคยมาฝึกมวยไทยที่ไทย เมื่อปี 2005 ซึ่งยากกว่ามวยสากลมาก เพราะต้องใช้ทุกอย่าง ทั้งหมัดเท้าเข่าศอก ส่วนอาหารไทยที่ชื่นชอบคือผัดไทย

“สภาพร่างกายตนเองนั้นอยู่ที่ 90 เปอร์เซ็นต์ และยังฝึกซ้อมอย่างหนักต่อเนื่อง ส่วนคำถามว่า จะน็อกบัวขาวภายในยกไหนนั้น ตามสไตล์ของผม จะทำเต็มที่ให้มีความสนุกและแฮปปี้ โดยไม่ได้มองว่าจะน็อกให้ได้ยกไหน อย่างไรก็ตาม รู้สึกภูมิใจ และเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ขึ้นชกกับยอดนักมวยไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก อย่างบัวขาว ในไฟต์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้”

ทางด้าน บัวขาว บัญชาเมฆ กล่าวว่า เคยพูดกับคุณวินิจว่าสิ่งที่อยากทำ แต่ยังไม่ได้ทำคืออยากจะชกกับปาเกียว จนผ่านไป 2 เดือน คุณวินิจมาบอกว่าเกิดไฟต์นี้ขึ้น ก็รู้สึกตกใจและไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นจริง เพราะเราติดตามปาเกียวชกมาโดยตลอด เขาเป็นยอดนักชกระดับโลก และขอบคุณที่เราได้มาปะทะกันในไฟต์นี้ เนื่องจากเราเป็นสายนักสู้เหมือนกัน

“การซ้อมของผมก็ทำอย่างต่อเนื่อง แต่คงเพิ่มมากขึ้นในเรื่องการคุมความคิดไม่ให้ออกอาวุธมวยไทย แต่ไม่ต้องกลัว ยังไงก็อาจจะมีหลุด แต่ยืนยันว่าพร้อมขึ้นสังเวียนแน่นอน พร้อมสู้เต็มที่ ส่วนคำถามว่าจะน็อกปาเกียวในยกไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ไม่แน่ว่าเริ่มต้นยกแรกมาก็อาจจะน็อกแรกก็ได้ หากผมน็อกได้ จะได้เงินรางวัลพิเศษ ก็จะนำไปทำการกุศล ด้วยการสร้างวิทยาลัยการกีฬาให้กับเยาวชนที่ขาดโอกาส เพื่อสร้างนักกีฬา และนักมวยรุ่นใหม่ขึ้นมา”