สวัสดีวันหยุดและพบกับนานาสารพันเรื่องราวยานยนต์ กับอ้วนซ่า แอบซิ่ง เหมือนเช่นเคย และเนื่องในวันศุกร์ ที่ 28 กรกฎาคม 2566 นี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับคนไทยทุกคน ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 71 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ในสุดสัปดาห์นี้อ้วนซ่า แอบซิ่ง จึงใคร่ขอนำเสนอเรื่องราวของรถยนต์พระที่นั่งที่พวกเราอาจจะได้เห็นในพระราชกรณียกิจหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา นั่นก็คือ รถยนต์พระที่นั่ง คาดิลแล็ค ฟลีทวู้ด ซีรีส์ 62 รุ่นปี 1955 (1955 Cadillac Fleetwood Series 62) จากสหรัฐอเมริกา ที่มีสีฟ้างดงาม แตกต่างจากรถพระที่นั่งองค์อื่นๆ

รถพระที่นั่งองค์นี้ เป็นอดีตรถพระที่นั่งส่วนพระองค์ของ พระบาทสมเด็นพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่ท่านได้ทรงซื้อมาในปี 1955 เมื่อครั้งมีพระชนมายุได้ 28 พรรษา จากคำแนะนำของที่ปรึกษาส่วนพระองค์ในเวลานั้น คือ พระองค์เจ้าเจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือ พระองค์เจ้าพีระ นักแข่งรถยนต์ทางเรียบผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งในเวลานั้นพระองค์เจ้าพีระ ท่านได้วางมือจากการแข่งรถยนต์น้ำหนักเบา และหันมาสนใจกับการขับรถยนต์ขนาดใหญ่ ที่ท่านได้ทรงแนะนำให้พระองค์ ได้สัมผัสกับเทคโนโลยียานยนต์ที่ล้ำหน้าของสหรัฐอเมริกา

รถยนต์พระที่นั่งคาดิลแล็ค นั้นมีความล้ำหน้ากว่ารถยนต์ส่วนพระองค์จากยุโรปที่ทรงชื่นชอบในยุคเดียว อย่าง เดอลาเฮย์ (Delahaye) จากฝรั่งเศสอยู่มาก เพราะเราต้องไม่ลืมว่าในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองนั้น สหรัฐอเมริกา ถือได้ว่ามีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และคาดิลแล็ค ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับหัวกะทิของพวกเขาก็อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่ารถจากแบรนด์อื่นๆ ไม่ว่าจะมีระบบพวงมาลัยผ่อนแรง กระจกไฟฟ้า เบาะปรับไฟฟ้า รวมถึงเกียร์อัตโนมัติ เดินหน้า 4 จังหวะ “ไฮดราแมติก” (Hydramatic) ที่ล้ำสมัยกว่ารถรุ่นใดๆ ในเวลานั้น

รถยนต์พระที่นั่งองค์นี้ ทะเบียน 1ด 0003 ซึ่งแสดงว่าเป็นรถยนต์ส่วนพระองค์ที่ทรงจัดซื้อด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ หรือเป็นรถที่ได้รับการถวายเป็นการส่วนพระองค์นั่นเอง และด้วยการที่เป็นรถส่วนพระองค์ สีของรถจึงไม่ได้เป็นไปตามรูปแบบของหมู่รถพระที่นั่ง ทะเบียน “ร.ย.ล” ที่เป็นสีงาช้างอย่างที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง

โดยสีฟ้านี้มีปรากฏว่า มีรถพระที่นั่งส่วนพระองค์ของ รัชกาลที่ 9 ใช้สีฟ้าอยู่หลายองค์ด้วยกัน อาทิ รถพระที่นั่ง เมอร์เซเดสเบนซ์ 300 ที่ท่านใช้เสด็จพระราชดำเนินไปเยือนภูเก็ตในปี พ.ศ. 2502 (1959), รถพระที่นั่งสปอร์ตเปิดประทุน เมอร์เซเดส เบนซ์ 190SL ที่ท่านซื้อในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยือนทวีปยุโรปในปี พ.ศ. 2503 (1960), รถพระที่นั่งตรวจการณ์ขับเคลื่อนสี่ล้อ จี๊ป แวกอนเนีย (Jeep Wagoneer) ที่ใช้ในการพระราชดำเนินในถิ่นทุรกันดาร ส่วนถ้าใหม่หน่อยก็เห็นจะเป็น รถยนต์พระที่นั่ง “นิสสัน เพรซิเดนท์” (Nissan President) ที่ทางสยามกลการ ถวายเพื่อใช้งานส่วนพระองค์ ที่รัชกาลที่ 9 ท่านได้รับสั่งขอให้พ่นสีรถเป็นสีของดอก “พยับหมอก” ซึ่งมีสีฟ้าสวยงาม ไม่เหมือนกับสีฟ้ารุ่นใดๆ ที่ทางนิสสันเคยผลิตขึ้นมา และสีฟ้านี้ก็ยังเป็นสีประจำวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อีกด้วย

การที่เรายังคงได้เห็นรถยนต์พระที่นั่งคลาสสิกอันทรงคุณค่าเหล่านี้ ออกมาอวดโฉมที่แสนสง่างามอยู่ได้ ก็เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงมีพระทัยในการอนุรักษ์ และรักษาให้รถยนต์ที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย ยังคงอยู่ให้เราได้ชื่นชม ขอพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ