เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ฝ่ายการช่างโยธา รฟท. และเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระดมแรงงานกว่า 30 คน ลงพื้นที่ทำความสะอาด และเก็บขยะ บริเวณที่หยุดรถอุรุพงษ์-ที่หยุดรถไฟพญาไท เส้นทางรถไฟสายตะวันออก ซึ่งขณะนี้พื้นที่ดังกล่าว อยู่ระหว่างการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างของผู้บุกรุกที่อาศัยอยู่ในแนวโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน พร้อมกันนี้ได้นำรถแบ๊กโฮเข้าหน้างาน และตักขยะส่วนที่เหลือออกไป ก่อนส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนผู้ดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน นำไปดำเนินโครงการฯ ต่อไป

นายเอกรัช กล่าวต่อว่า แนวโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ระหว่างที่หยุดรถอุรุพงษ์-ที่หยุดรถพญาไท มีระยะทางประมาณ 1,200 เมตร ก่อนหน้านี้มีผู้บุกรุกอยู่อาศัยเต็มพื้นที่ตลอดแนวประมาณ 100 หลังคาเรือน ปัจจุบันผู้บุกรุกทยอยออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขยะส่วนใหญ่นอกจากจะมาจากการรื้อถอนบ้านผู้บุกรุก ที่ทำให้มีทั้งเศษวัสดุ หลังคากระเบื้อง ไม้อัด และสังกะสีแล้ว ยังมาจากประชาชนผู้บุกรุกบางส่วน ที่นำขยะมาทิ้งด้วย สำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างถาวรนั้น รฟท. ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการกั้นพื้นที่ ตลอดจนทำการประชาสัมพันธ์ และติดป้ายประกาศห้ามบุกรุก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกลับมาบุกรุกในพื้นที่เพิ่ม และนำขยะมาทิ้งในที่ดินของ รฟท. อีก

นายเอกรัช กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมานายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. ได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชุมชนฯ และมอบนโยบายเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุก และหาทางออกร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง ขอย้ำว่าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน รฟท. มีแนวทางปฏิบัติ โดยยึดหลักตามความถูกต้องของกฎหมาย ไม่มีการเลือกปฏิบัติ และสามารถดูแลพิทักษ์การใช้ทรัพย์สินของ รฟท. ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นสำคัญ

ขณะเดียวกัน รฟท. มีความตั้งใจอย่างยิ่ง ที่จะดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการลงทุนของรัฐด้วย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ รฟท. ต้องเข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของผู้บุกรุกบางส่วนที่ยังไม่ออกจากพื้นที่ตามกฎหมายต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น จากการที่รัฐส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนล่าช้าต่อไป.