“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ชี้ว่าไม่ได้ปักธงว่า “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ต้องเข้าสู่รอบ 3 หรือ รอบ 18 ทีมสุดท้าย ในฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เพราะจะเป็นการกดดันนักเตะ

ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ได้คู่แข่งในฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ร่วมกับ “โสมขาว” เกาหลีใต้, “มังกร” จีน ส่วนอีกทีมระหว่าง สิงคโปร์ หรือ กวม ที่จะเตะรอบแรกกันก่อน โดยรอบ 2 นี้คัดทีมอันดับ 1-2 เข้ารอบ 3 หรือรอบ 18 ทีมสุดท้าย ทั้งนี้โซนเอเชีย มีโควตาเข้าฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 8.5 ทีม โดยในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก หนก่อน ทีมไทยตกรอบ 2 ไปไม่ถึงรอบสุดท้ายเอเชีย

สำหรับโปรแกรมแข่งขันของไทย (ชื่อแรกเจ้าบ้าน) วันที่ 16 พ.ย. 66 ไทย พบ จีน (ราชมังคลากีฬาสถาน), วันที่ 21 พ.ย. 66 (สิงคโปร์-กวม) พบ ไทย, วันที่ 21 มี.ค. 67 เกาหลีใต้ พบ ไทย, วันที่ 26 มี.ค. 67 ไทย พบ เกาหลีใต้, วันที่ 6 มิ.ย. 67 จีน พบ ไทย, วันที่ 11 มิ.ย. 67 ไทย พบ (สิงคโปร์-กวม)

ผู้สื่อข่าวสอบถาม พล.ต.อ.สมยศ ถึงความคาดหวังในคัดฟุตบอลโลก ซึ่ง บิ๊กอ๊อด กล่าวว่า คาดหวังว่าทุกรุ่นต้องได้ชัยชนะอยู่แล้ว หรืออย่างน้อยต้องดีกว่าที่เคยทำมา แต่ทุกชาติก็คาดหวังเช่นกัน การจับสลากแบ่งกลุ่มออกมา สมัยนี้ไม่มีแล้วสายแข็ง สายอ่อน มีแต่สายแข็งๆ สิ่งสำคัญคือจะเตรียมพร้อมขนาดไหน เพราะทุกชาติก็พร้อม ไทยต้องทำให้ดีกว่า

เมื่อถามว่า ปักหมุดเป้าหมายว่าต้องผ่านเข้ารอบ 18 ทีมสุดท้ายหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ไม่สามารถปักหมุดได้ เพราะเป็นการกดดันนักกีฬา การพูดว่าต้องได้นั้นได้นี้ ตนพูดไม่ได้ เป็นเรื่องของข้างสนามพูด คนในสนามไม่มีใครอยากแพ้ ทุกคนอยากชนะ แต่ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความพร้อม

“ถ้าบอกว่าต้องได้อย่างนั้น อย่างนี้ ไม่ได้อย่างนั้น ไม่ได้อย่างนี้ ถือว่าคนพูดเพ้อเจ้อมากกว่า” บิ๊กอ๊อด กล่าว

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่า ไม่ว่ารายการอะไร สมาคมฯ จะจัดการเรื่องความสะดวกสบาย ส่วนในสนาม เป็นเรื่องของโค้ช สมาคมจัดการเรื่องนอกสนาม ส่วนเรื่องผลแข่งขัน เป็นความรับผิดชอบของโค้ช ซึ่งตนไม่เคยกดดันนักกีฬา สิ่งสำคัญคือทำให้ดีที่สุด.