สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ว่า เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รมว.พลังงานซาอุดีอาระเบีย ประกาศขยายระยะเวลา การลดเพดานการผลิตน้ำมันวันละ 1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา “ออกไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน” จนถึงวันที่ 30 ก.ย. ที่จะถึง เท่ากับว่า ปริมาณน้ำมันเฉพาะจากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งส่งออกสู่ตลาดโลก จะอยู่ที่วันละ 9 ล้านบาร์เรล จากปัจจุบันคือวันละ 10 ล้านบาร์เรล


ทั้งนี้ เจ้าชายอับดุลอาซิซทรงเน้นย้ำว่า เรื่องนี้ “เป็นความสมัครใจ” ของรัฐบาลริยาด เนื่องจากมาตรการลดการผลิต ขององค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) ซึ่งมีซาอุดีอาระเบีย ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นหัวเรือใหญ่ และพันธมิตรนอกกลุ่มนำโดยรัสเซีย ในนาม “โอเปกพลัส” ยังไม่สามารถทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น มาตรการดังกล่าวอาจมีการต่อเวลาออกไปอีก “ตามความเหมาะสม”


ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ซาอุดีอาระเบียจะใช้มาตรการนี้ จนกว่าราคาน้ำมันดิบจะลดลงต่ำกว่า 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (ราว 2,774.12 บาท) โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ซื้อขายกันอยู่ที่บาร์เรลละประมาณ 85 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,947.50 บาท) เมื่อปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นราว 10 บาร์เรล (ราว 347 บาท) จากเมื่อช่วงต้นเดือนเดียวกัน


ด้านข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติซาอุดีอาระเบียระบุด้วยว่า กิจกรรมเกี่ยวกับน้ำมันของประเทศ เมื่อไตรมาสที่สองของปีนี้ หดตัว 4.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจีน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES