ถูกสนใจหนักมากสำหรับประเด็นนักร้องขวัญใจสายแว๊น โชค รถแห่ ที่วันนี้ควง นัส จุฑารัตน์ มาเปิดใจที่แรกหลังภรรยาโพสต์เดือดจับได้สามีนอกใจไม่รู้จักพอ พร้อมเคลียร์ข่าวลือที่นัสยอมจ่าย 200,000 บาท เพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นเลิกยุ่งกับสามี ผ่านรายการคุยแซ่บ show แบบจัดเต็ม

นัส เผยว่า “ที่เราโพสต์เพราะจับได้ว่าเขากลับไปหาผู้หญิงคนนึง เราเลยรู้สึกว่าไม่โอเคแล้วก็โกรธ ผู้หญิงคนนั้นรู้จักค่ะ แต่ไม่เจอบ่อย เคยเจอครั้งนึง เหตุการณ์ต่างๆคือตอนแรกนัสงอน นัสโมโห แล้วนัสขับรถไปสระแก้ว แต่สระแก้วคือจังหวัดที่เขาต้องห้าม แต่สระแก้ว คือบ้านเกิดนัสเอง มันไปได้ แต่ต้องไปด้วยกัน เพราะเขาไม่ไว้ใจ เราเคยมีแฟนเก่าอยู่ที่นั่นเหมือนกัน แต่เพื่อนเราอยู่ที่นั่นเหมือนกันเพื่อนที่นัสคุยแล้วสบายใจที่สุด คืออยู่ที่สระแก้วหมดเลย นัสไม่ได้มีเพื่อนที่กรุงเทพ เลยรู้สึกว่าแค่อยากกลับไปหาเพื่อน กลับไปคุย ไปปรึกษาแค่นั้นเอง ตอนนั้นรู้สึกโกรธเขามาก แล้วเจ็บปวดกับสิ่งที่เขาทำ เราห่างกันไม่นานค่ะ ประมาณ 6-7 ชม. เอาจริงๆเรื่องผู้หญิงเขาเราไม่ได้ตาม แต่มันมีช่วงที่เขาหายไป มีช่วงที่ตืดต่อเขาได้และไม่ได้ มีช่วงที่โทรวีดีโอคอลแล้วไม่รับ มีช่วงที่ตัดสาย นัสรู้สึกว่ามันมีอะไรที่ไม่ปกติ ต้องมีอะไรสักอย่าง เพราะนัสรู้เรื่องผู้หญิงคนนี้ เพราะเขาโพสต์ตลอด ผู้หญิงไม่เคยอยู่เป็นเลย เพราะเขาจะโพสต์ตลอด ไม่ว่าจะเกิดดราม่าอะไรกับเรา เขาจะโพสต์เหมือนเขาเป็นส่วนหนึ่งตลอด แล้วพอนัสไปเห็นว่ามันเป็นเรื่องราวของเรา เราก็ขึ้นไปหาดขาเลย ตอนนั้นโกรธมากค่ะ คือไปเจอกันอะไร หนูไม่เจ็บเท่าเอาเรื่องของหนูไปเล่าให้เขาฟัง หนูรู้สึกว่าอันนี้ไม่ให้เกียรติหนูเลย อันนี้หนูรับไม่ได้ เขามีบอกเราว่าคุยแฟนเก่าเฉยๆหนูทำใจเชื่อยากมาก เพราะหนูไม่รู้ว่าเหตุการณ์ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วมันไม่มีอะไรที่ยืนยันได้ แล้วมันไม่ใช่ครั้งแรก ซึ่งอันนี้ถ้าครั้งใหญ่ๆ ครั้งที่2 เคยกลับไปมีอะไรกันตอนคบกับหนูได้ 3 เดือน ตอนนั้นตลกมาก วีดิโอคอลว่าอยู่ไหน บอกว่ารถเสีย เทอร์โบหลุดอยู่แถวปากช่อง แล้วบอกว่าต้องพักโรงแรม หนูก็บอกว่าให้ไปหาไหม เป็นห่วง เขาบอกไม่เป็นไร ไม่ต้องไป งั้นแพลนกล้องให้หน่อย นัสเห็นรองเท้าผู้หญิงสีดำ เขาบอกว่ารองเท้าใส่ในห้อง เราบอกไม่มันไม่มีส้นสูงแบบนั้น แพลนใหม่ แล้วเห็นเขาก็รีบเขี่ยออกไป เราก็บอกแพลนไปที่เตียงสิ เขาก็ทำแบบขุๆ ขะๆ ตอนนั้นคือชัดเลย อันนั้นคือครั้งแรก”

โชค เผยว่า “เรื่องของเรื่องคือมีปัญหากันหลายๆ เรื่อง ความคิดหลายๆ อย่างเราอาจจะไม่ตรงกัน อย่างเช่น ผมชอบทำรถ อยู่กับโทรศัพท์ ติดเกม คิดโซเชียลเยอะไปหน่อย แล้วเขาเครียดกับการทำงานของเขาด้วย ทำให้เราจูนกันไม่ค่อยติด มันคาราคาซังกันนานพอสมควร แล้วมันมีเรื่องเฟซบุ๊ก ไลน์ เข้ามาเติมเต็ม เขารู้สึกว่าเหนื่อย เขาเลยไปสระแก้ว ตอนนั้นผมไปเวียนเทียนอยู่ที่วัด มาดูโทรศัพท์อีกทีคือเขาไปแล้ว ทิ้งข้อความไว้ในแชทเต็มไปหมดเลย บ่นนู้น บ่นนี่ หลายๆ อย่าง ผมอ่าน เรามาทำบุญ เราไม่อยากเถียง เราก็โอเคอย่างเดียว เขาก็ไป แต่พอผมเสร็จจากการทำบุญ กำลังขับรถกลับบ้าน ผมไลน์และโทรไปง้อ ตอนนั้นเขาแข็งอย่างเดียวเลย ยังไงก็ไม่ดีด้วย เขายืนยันว่าจะกลับไปหาเพื่อนที่สระแก้ว ที่ใช้โซเชียลง้อตอนแรกเคยทะเลาะกันแบบนี้แหละ เขาเคยไปสระแก้วแล้วครั้งนึง ครั้งแรกที่เขาไปผมขับรถไปง้อเขาที่สระแก้วจริงๆ แล้วบอกว่าต่อไปนี้ถ้าจะมาต้องมาด้วยกัน ถ้ามาคนเดียวแบบนี้เขารู้สึกไม่ดีเลย เขาก็สัญญาว่าจะไม่ทำแล้ว แล้วมีครั้งนี้ที่เขาไป ผมไม่ได้ไปจริงๆ งอนกันเพราะสาเหตุเรื่องส่วนตัวมากกว่า ไม่เข้าใจกันในเรื่องส่วนตัวมากกว่า มันเป็นเวลาที่งอนเมีย ส่วนเขาก็น้อยใจผม ก็ง้อ แต่เขาอยากไปหาเพื่อน เราไม่ต้องคุยกันหรอก มันไม่มีที่ไหนที่สบายใจ ผมก็เลยหยิบโทรศัพท์ แอดเฟซไปหาแฟนเก่าที่เคยคุยกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไประบายให้เขาฟัง ใช่เขาอาจจะซัพพอร์ตเรา ณ ตอนนั้น แต่ความเป็นจริงมันไม่ถูกหรอก ผมรู้สึกไม่น่าเลย”

“ตอนที่ห่างกับนัส 6-7 ชั่วโมงก็ทักไปคุยแฟนเก่าด้วย ทางนั้นก็คุยบ้าง ไม่คุยบ้าง มาๆ หายๆ เราก็เล่าให้เขาฟังกับปัญหาส่วนของเราว่ามันเกิดอะไรบ้าง มีทั้งแชทและไปเจอตัวทั้งหมด แต่ไปหาจริงๆ ประมาณ 15 นาที ตรงนี้ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นยังไง แต่ผมปรึกษาทั้งพี่ เพื่อนทุกคนแล้ว เรารู้สึกไม่มีใครเข้าใจเราจริงๆ ว่าเราชอบแบบนี้ อาจจะมีบางคนที่เขาเห็นใจเราก็ได้ ตอนนั้นไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ ก็เลยอาจจะมีบางคนที่เขาเห็นในเราก็ได้ ไม่รู้ว่าตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่ แต่มันไม่ดีเลย แต่ผมยืนยันกับภรรยานะว่าวันนั้นคุยอย่างเดียว ยืนยันครับ ผมบอกเขาตั้งแต่วันนั้นว่าคุยอย่างเดียว แต่เขาบอกผมตลอดว่าไม่เชื่อว่าคุยอย่างเดียว คือเราพูดไปเขาก็ไม่เชื่อ เพราะมันเคยมีแผลมาก่อน เพราะเกมครั้งแรกก็เพราะคนนี้ แล้วผ่านไปอีก 2 ปีก็คนนี้อีกครั้งนึง ก่อนที่จะเลิกคุยเราก็บล็อกทุกอย่างว่าจะไม่ทักไปแล้ว คิดว่าจะจบแค่วันนั้น แต่หลังจากที่เราบล็อกไปวันนึง หรือสองวัน คนนี้เขากลับโพสต์เรื่องราวที่เราเล่าให้เขาฟัง แล้วไม่รู้อะไรดลใจให้เมียเราเข้าไปส่อง แล้วเขาก็มาถามเรา แล้วเราก็บังเอิญไหว้พระอยู่เลยตอบว่าครับ เรื่องเงิน 2 แสน ตอนที่ผมคบกับเขาอยู่ ทางผู้ใหญ่เขาให้หมั้นกันไว้ ตอนนั้นผมเป็นนักร้องอยู่ แล้วพอวันนึงมันไปกันไม่ได้ เราเลยแยกจากกัน ของหมั้นและเงินเราก็ยกให้ฝ่ายหญิงทั้งหมดเลย แล้วเขาเหมือนจะบอกว่า ฝ่ายหญิงเหมือนมีตำหนิไปแล้ว เขาเลยบอกให้เราชดใช้ค่าเสียหายได้ไหม ผมเลยบอกว่าได้ เพื่อไม่ให้มันมีปัญหาบานปลาย ผมเอาเงินจ่ายเขาไปก่อน 50,000 แล้วมันติดอยู่อีก 150,000 แล้วมีรถมอเตอร์ไซค์ที่ติดไฟแนนซ์แต่ว่าเป็นชื่อแม่เขา ก็รวมทั้งหมดที่ค้างเขาอยู่ประมาณ 220,000-230,000 พอตรงนั้นจบแล้ว แต่มันยังคาราคาซังเรื่องนี้ ต่างคนก็มีคนใหม่ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้หมดแล้วว่าเราเหลือแค่ปัญหาเรื่องเงินที่ติดค้างกันอยู่ แล้วผมมาคบกับนัสได้สักระยะนึง แล้วเขาถามว่าปัญหากับผู้หญิงคนนั้นยังไง ผมก็เล่าให้ฟัง เขาเลยบอกว่าฉันมีเงินอยู่ เดี๋ยวฉันเคลียร์ตรงนี้ให้เธอแล้วกัน เขาเลยทำสัญญาขึ้นมาเป็น 2 ฉบับ ของผมที่ค้างเขา 150,000 แล้วค่ารถอีก 80,000 วันนั้นเขามากับแม่เขา ผมก็ไปกับนัส ต่างคนต่างเซ็น ไม่ได้ว่าจ้างเลิกหรืออะไรนะครับ เพราะมันคาราคาซังมาก่อนที่จะคบกับนัสอีก”