เมื่อวันที่ 5 ก.ค. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมุนมโพสท์เฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้วเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ จนทำให้คนต้องอพยพกันเป็นจำนวนมาก มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่งว่าเป็นภาพสะท้อนความล้มเหลวระบบราชการและการจัดการของรัฐบาล เพราะใช้เวลาเกือบ 10 ชั่วโมงแล้วยังควบคุมเพลิงไม่ได้ แม้หน่วยกู้ภัยหรือนักดับเพลิงจะพร้อมแค่ไหน แต่การประสานภายในหน่วยงานยังขาดประสิทธิภาพ

โดยข้อความในโพสดังกล่าวมีดังนี้ “ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว : ภาพสะท้อนความล้มเหลวระบบราชการและการจัดการของรัฐบาล.เหตุเกิดตั้งแต่ตี 3 จนใช้เวลามากกว่าสิบชั่วโมงแล้วยังคุมเพลิงไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของหน่วยกู้ภัยหรือพนักงานดับเพลิง เพราะแม้จะคนจะพร้อมมากแค่ไหน แต่หากอุปกรณ์หรือการประสานภายในหน่วยงานราชการยังขาดประสิทธิภาพ ก็ยากที่จะแก้ปัญหาช่วงที่ต้องเผชิญวิกฤตเช่นนี้.ทั้งปัญหาด้านอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยที่มีไม่ครบ หน้ากากที่ป้องกันสารพิษไม่ได้ หรืออุปกรณ์กู้ภัยต่าง ๆ ที่เจ้าหน้าที่ต้องออกเงินซื้อเอง ซึ่งเป็นอุปสรรคในการดับเพลิงที่สำคัญ ต่างก็เป็นผลมาจากการบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลทั้งสิ้น รวมทั้งปัญหาการสื่อสารระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เช่น การประสานเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยที่กว่าจะได้ต้องรอเวลาราชการตอนเช้า ต่างจากตอนเรียกรถน้ำออกมายิงประชาชน ที่ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง”

“อีกปัญหาที่สำคัญ ซึ่งมีต้นตอมาจากรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ คือเรื่องกฎหมายผังเมืองและการขอใบอนุญาตโรงงาน โดยการตรวจสอบพบว่าเอกสารที่ระบุเกี่ยวกับพื้นที่และโรงงานอุตสาหกรรมอันตราย ไม่มีการเปิดเผยกับประชาชนทั่วไป อีกทั้งในช่วงหลังการรัฐประหารของคสช. รัฐบาลได้ใช้อำนาจผ่านสนช.ในการแก้กฎหมายการขอใบอนุญาต จากเดิมที่ต้องตรวจสอบและขอใหม่ทุก 5 ปี ก็ถูกเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตที่ใช้ได้ตลอด แสดงให้เห็นว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เกิดจากความตั้งใจในการละเลยความปลอดภัยของประชาชน.มากไปกว่านั้น เมื่อนักข่าวถามถึงมาตรการการดูแลประชาชนกับพลเอกประวิตร ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะรัฐประหารในวันนั้น และได้รับตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีวันนี้ ปรากฏว่าคนที่เป็นถึงรองนายกฯ เดินหนีและไม่ให้คำตอบใด ๆ กับนักข่าวเลย ซึ่งแตกต่างจาก ส.ส. พรรคฝ่ายค้านที่ลงพื้นที่ พูดคุยกับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งชัดเจนแล้วว่า ความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ได้อยู่ในสายตาของคณะรัฐบาลชุดนี้เลย!!.เราไม่ทนกับผู้นำและรัฐบาลที่ไม่เคยแยแสความเดือดร้อนของประชาชนอีกแล้ว เราต้องการรัฐบาลที่ฟังเสียงประชาชน และเป็นรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยอันสมบูรณ์”

อ่านโพสท์ต้นทางได้ที่นี่