เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่า พรรคที่จะมาร่วมกับพรรค พท. ยื่นเงื่อนไขร่วมรัฐบาล ต้องไม่มีเงื่อนไขห้ามรัฐมนตรีนั่งกระทรวงเดิม หากมีขอให้เปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯ ว่า ตนยังไม่ได้ยินพรรคใดประสานมาในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แต่เท่าที่ได้คุยกับหัวหน้าพรรคที่จะมาร่วมงานกับ พท. ไม่มีปัญหาที่รุนแรงในเรื่องนี้ ประเด็นที่ว่านายเศษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. ไปพูดไม่ให้พรรคที่จะมาร่วมกับพรรค พท. ทำงานกระทรวงเดิมนั้น นายเศรษฐาไม่ได้พูดเป็นหลัก เป็นคำถามจากสื่อว่า หลักการไม่ควรให้นั่งกระทรวงเดิมหรือไม่ ซึ่งนายเศรษฐา พูดเพียงว่าหลักการดูดีเห็นชอบ แต่ต้องดูว่าการเชิญพรรคต่างๆ มาร่วม ต้องให้เกียรติและดูความเหมาะสม ไม่อยากให้ยึดติด อยากให้ดูนโยบาย คุณสมบัติของคนที่จะมาทำงาน เป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่มีปัญหาอะไรเป็นเรื่องที่ต้องหารือกัน หน้าที่ของพวกเราต้องประสานงานตั้งรัฐบาลให้ได้ แต่ประเด็นเหล่านี้ ต้องไปดูความเหาะสม นโยบายตัวบุคคล คิดว่าไม่น่ามีปัญหา เท่าที่คุยกับหัวหน้าพรรค หลักๆ เราพูดเหมือนเดิมว่าอยู่ที่ใครร่วม และส่งสัญญาณในการเลือกนายกฯ ให้พรรค พท. เป็นแกนนำ มีนายเศรษฐา เป็นนายกฯ หลังจากนั้นมาพูดเรื่องกระทรวงให้สังคมพอใจและสอดรับนโยบายบายแต่ละพรรคน่าจะดีกว่า ขอความกรุณาจากพรรคร่วมให้ช่วยดูตรงนี้ เอาวาระประเทศ วาระประชาชนเป็นที่ตั้ง แล้วดูความเหมาะสมจะแบ่งกันทำงานอย่างไร ทุกเรื่องคุยกันได้หากใช้เหตุใช้ผล อยากให้รอเวลาคุยกันอีกนิดเดียว

เมื่อถามว่าพรรคการเมืองต่างๆ อยากให้คุยก่อนโหวตนายกฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรารวมเสียงมาถึงขั้นนี้แล้วไม่มีปัญหา ถึงเวลาที่เหมาะสมจะทำให้มันชัด ต้องชัดเจนก่อนว่า มีคนพร้อมร่วมรัฐบาลเท่าไร แล้วจะจัดการอย่างไร ตอนนี้เรามี 238 เสียง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บอกจะโหวตให้โดยไม่มีเงื่อนไข ก็รวมเป็น 278 เราต้องทำให้ได้ 375 เสียง และเท่าที่ฟังพรรคการเมืองอื่นๆ ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็พูดทางบวก ให้ใช้นโยบายเป็นแกนกลางกำหนดนโยบายทำงาน ดูใครเหมาะสม ใครเป็นหลักเป็นรอง ถ้าคุยด้วยผลประโยชน์ประเทศชาติคุยได้หมด ตั้งใจว่าเมื่อเลือกนายกฯ แล้ว รัฐบาลจะเดินหน้าทำงานได้ในเดือน ก.ย. คิดว่าจะประเด็นกระทรวงต่างๆ จะเสร็จสิ้นใกล้เคียงกับการโหวตนายกฯ ขอดูเวลาที่เหมาะสม 

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการประสานพรรคมาร่วมโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยเพิ่มเติม ได้ประสานงานไปยังพรรค รทสช. แล้วหรือยัง จะมีการประกาศชื่อพรรคร่วมอื่นอีกหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กำลังดำเนินการ ทราบแล้วว่าพรรค รทสช. มีแนวโน้มเป็นบวก เราคุยกันบ้างแล้วตั้งแต่เชิญมารับฟังแนวทางร่วมรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่พรรค พท. ยืนยันความสัมพันธ์ไม่มีปัญหา รองหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เตรียมการให้เรียบร้อยแล้ว จะเชิญพรรค รทสช. มาพูดคุยอย่างเป็นทางการ เมื่อได้ความชัดเจนว่าจะร่วมรัฐบาลกันหรือไม่ จะมีการประกาศอย่างชัดเจนอีกครั้ง 

เมื่อถาม สว.อ ยากให้เศรษฐาไปแสดงวิสัยทัศน์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องถามไปยังนายเศรษฐา แต่นายเศรษฐาไม่ใช่ สส. การเข้าไปพูดในสภาอาจลำบาก ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) พูดในรัฐสภา เป็นการตอบคำถามแล้วแสดงวิสัยทัศน์ และที่ผ่านมาไม่เคยมีการแสดงวิสัยทัศน์ การตรวจสอบผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ เป็นเรื่องจำเป็น ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ นายเศรษฐา ก็พูดชัดเจนแล้วประเด็นที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาตั้งคำถาม โดยให้บริษัทที่ถูกตั้งคำถามชี้แจง และนายเศรษฐาก็รักษาสิทธิโดยการฟ้องร้องนายชูวิทย์ ว่าไปตามกฎหมาย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเลี่ยงภาษี แต่เป็นการบริหารจัดการภาษีตามกฎหมาย เป็นหลักการที่มีการสอนกันในมหาวิทยาลัย เมื่อทุกอย่างทำตามกฎหมาย ก็ไม่ผิดจริยธรรม มั่นใจนายเศรษฐาไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติอย่างแน่นอน

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่แกนนำพรรค พท. เดินทางไปพูดคุยกับพรรค ก.ก. ที่มีการออกมาระบุพรรค พท. ไม่ได้บอกรายละเอียดการเดินหน้าตั้งรัฐบาลว่า ขอยืนยันข้อเท็จจริง การไปพบกับพรรค ก.ก. วันนั้น ไปในฐานะทีมเจรจา ส่วนที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. ไปด้วยนั้น พรรค ก.ก. เป็นคนร้องขอมา เพื่อจะได้สบายใจกันทุกฝ่าย น.ส.แพทองธาร ก็เดินทางไป เราไปอย่างเปิดเผยไม่ปิดบังอะไร 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนที่มีรายงานข่าวว่า เราไปแจ้งว่าจะเอาสองลุงมาร่วมรัฐบาลนั้น ไม่ตรงข้อเท็จจริง อาจจะคลาดเคลื่อน เราบอกทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดให้เขาสนับสนุนเราเป็นรัฐบาลได้ เพื่อให้เราทำงานได้ แต่ทางพรรค ก.ก. อยากให้เรากลับไปเป็น 312 เหมือนเดิม ซึ่งเราบอกไปว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นใหม่ จะยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ เราอยากให้ตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อเปิดประตูแก้วิกฤติ แต่เขาอยากให้เราเป็นเหมือนเดิมคือ 312 ซึ่งไปไม่ได้ เมื่อไปไม่ได้เราต้องเลือกทางเดินอื่นที่มีไม่กี่ทาง ซึ่งอาจจะขัดใจประชาชนบ้าง แต่พรรคการเมืองที่จะมาร่วมกับเรา ก็มาจากประชาชน หากพรรค ก.ก. โหวตให้เราก็ขอบคุณ ไม่โหวตก็ไม่ว่ากัน หากเขาเป็นฝ่ายค้าน เราเป็นรัฐบาล ถ้าทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ สามารถสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติได้ เราพร้อมสนับสนุนนโยบายของเขาที่เป็นประโยชน์ แต่เราจะไม่ยอมเรื่องกฎหมายอาญามาตรา 112 และเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบัน ส่วนที่บอกว่า ตนไม่ได้ขอขมา ตนยอมรับว่าเคยพูดว่าจะไปขอโทษขอขมา แต่ที่พูดไปเป็นเพียงสร้อย เพราะไม่รู้สึกว่าตนทำผิดอะไร แต่ในการพูดคุย ตนได้พูดไปว่า หากมีอะไรไม่สบายใจก็ขอโทษ เรามองเรื่องการร่วมมือเป็นหลัก จะสามารถแก้ปัญหาได้ ตนยืนยันแล้วว่า ถ้าทำงานใหญ่ คิดเรื่องใหญ่ ต้องใจใหญ่ คิดเรื่องเล็กทำงานใหญ่ไม่ได้.