เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่โดม เซล แกลอรี่ ชั้น 1 อาคารเพิร์ล แบงค็อก พหลโยธิน ซอย 10 มร.นิค แชปแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานฝ่ายปฏิบัติการ Bare Knuckle Fighting Championship Asia (BKFC ASIA) พร้อมด้วย นายวรรธนัย วรรธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน BKFC ASIA ประธานบริหาร รอยัล คลิฟ โฮเต็ลส์ กรุ๊ป และศูนย์ประชุมนานาชาติพีช พัทยา (PEACH) ร่วมกันแถลงข่าวแมตช์หยุดโลก สังเวียนระอุ “บัวขาว บัญชาเมฆ” ปะทะ “แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ในศึก “BKFC Thailand ครั้งที่ 5-LEGENDS OF SIAM” สังเวียนการต่อสู้ด้วยมือเปล่าบนกฎกติกาแบบไทยที่ทวีความดุเดือด ในวันที่ 4 พ.ย. นี้ ที่รอยัลคลิฟ โฮเต็ลส์ กรุ๊ป พัทยา จ.ชลบุรี 

BKFC ASIA ประกาศอย่างเป็นทางการ พร้อมระเบิดศึกสะเทือนวงการกำปั้นของ 2 นักสู้ระดับตำนานแห่งยุค กับไฟต์หยุดโลก ระหว่าง บัวขาว บัญชาเมฆ ปะทะ แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม พร้อมยกทัพจัดเต็มด้วยคู่มวยเดือดชิงแชมป์โลก 2 คู่ ได้แก่ โป เดนแมน (ไทย) ปะทะ บริเทน ฮาร์ต (สหรัฐอเมริกา) และ “แฟรงค์” กฤษณะ ศรีสังข์ ปะทะ ศรันย์ ศรีอุ่มบู โดยศึกนี้อัดแน่นเต็มพิกัดด้วยนักสู้ฝีมือฉกาจจากทั่วโลกรวม 24 ชีวิต ดวลเดือดกันในการต่อสู้ทั้ง 12 แมตช์ 

มร.นิค แชปแมน กล่าวว่า ศึกนี้นับเป็นการพบกันของ 2 ยอดนักสู้แห่งสยาม ผู้เป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ และเป็นครั้งแรกของ 2 นักชกที่จะมาร่วมประลองฝีไม้ลายมือกัน ภายใต้กติกาใหม่ของเวที BKFC ซึ่งเน้นความดุเดือด ชกจริง เจ็บจริง ระห่ำมากยิ่งขึ้น จะชกกันแบบมือเปล่า ไม่สวมนวม โดยในพิกัด 68.5 กก. กำหนดชก 5 ยก ยกละ 2 นาที หากใน 5 ยก ยังเสมอ จะมียกที่ 6 เพื่อให้รู้แพ้รู้ชนะกันไปเลย ดังนั้นผู้ชมจึงไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย หรือน็อกคาเวที ตอนนี้ทั้งสองนักชกกำลังซุ่มลับฝีมือกันอย่างเต็มที่ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนรักกัน แต่เรื่องศักดิ์ศรี ไม่มีใครยอมกันแน่นอน

บัวขาว บัญชาเมฆ กล่าวว่า แม้จะเป็นเพื่อนรักกับแสนชัย แต่จะไม่ออมมือให้อย่างแน่นอน ศึกครั้งนี้เป็นการต่อยจริง เจ็บจริง แฟนๆ ห้ามพลาด เพราะเป็นแมตช์การต่อสู้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เสมือนของขวัญที่ BKFC มอบให้แก่แฟนกีฬาการต่อสู้ในช่วงปลายปี ไม่ผิดหวังแน่นอน เอาศักดิ์ศรีเป็นเดิมพัน

ขณะที่ แสนชัย พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม กล่าวว่า ถึงเราเป็นเพื่อนรักกัน แต่ถ้าได้ขึ้นเวทีเรามีความเป็นมืออาชีพ ที่จะไม่มีคำว่าขึ้นไปเหยาะแหยะ และเสียชื่อการต่อสู้ ขอขอบคุณแฟนคลับที่สนับสนุนด้วยดีตลอด แม้มีกระแสแฟนคลับบางส่วนที่ไม่อยากให้เราชกกันเอง อยากจะบอกว่าการชกครั้งนี้ ไม่ได้พิสูจน์ว่าใครเก่งกว่า แต่ชกเพื่อประกาศให้คนทั่วโลกหันมาสนใจดูศิลปะการต่อสู้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อปรับกติกาใหม่ที่เข้มข้นขึ้น เรามั่นใจว่าผู้ชมทั่วโลกจะสนุก มัน ลุ้นจนนั่งไม่ติด กับการต่อสู้บนเวทีครั้งนี้แบบเต็มสตรีม