สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงทิมพู ประเทศภูฏาน เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศภูฏาน ออกแถลงการณ์ว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ที่จะถึง อัตราการเก็บ “ค่าธรรมเนียมการพัฒนาที่ยั่งยืน” จะลดลงครึ่งหนึ่ง จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่คืนละ 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7,032 บาท) โดยการลดราคาดังกล่าว จะมีผลเป็นเวลานาน 4 ปี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ภูฎานเพิ่มค่าธรรมเนียมรายวันสำหรับนักท่องเที่ยว หรือที่เรียกกันว่า “ค่าเหยียบแผ่นดิน” จาก 65 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,285.40 บาท) เป็นอัตราปัจจุบันคือ 200 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเดือน ก.ย. 2565 โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับการนำเงินส่วนนี้ไปร่วมเป็นงบประมาณ เพื่อลดคาร์บอนจากการท่องเที่ยว
อนึ่ง ภูฏานเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2517 โดยตอนนั้นมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเพียง 300 คน อย่างไรก็ดี สถิติการเยือนของนักเดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสูงถึง 315,600 คน เมื่อปี 2562 เพิ่มขึ้น 15.1% จากสถิติของปี 2561 ทว่าการท่องเที่ยวหลังจากนั้น ได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง จากวิกฤติการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
