เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 28 ส.ค. ที่ อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา (หอผู้ป่วยพิเศษระดับสูง) โรงพยาบาลตำรวจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ โดยเปิดเผยสั้นๆ ภายหลังเดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร (บิดา) ภายในห้องพักผู้ป่วย 1401 เมื่อเวลา 12.50 น. ที่ผ่านมา ว่า ‘พรุ่งนี้ที่พรรคเพื่อไทยนะคะ’

โดยเจ้าตัวได้ปฏิเสธการตอบคำถามของผู้สื่อข่าว อาทิ อาการของบิดา เป็นต้น และเมื่อถามว่ากำลังใจของนายทักษิณ ดีขึ้นหรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร ยิ้มรับก่อนพยักหน้าเบาๆ และเปิดประตูขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคล เป็นรถตู้ Mercedes Benz สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน วข 9999 กรุงเทพมหานคร พร้อมยกมือไหว้สวัสดีสื่อมวลชนด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนปิดประตูรถเคลื่อนออกจากอาคาร

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่ น.ส.แพทองธาร จะเดินออกมาจากภายในตัวอาคาร มีเจ้าที่ตำรวจจาก สน.ปทุมวัน หลาย 10 นาย คอยยืนตั้งแถวดูแลเรื่องความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก และกันผู้สื่อข่าวไม่ให้รุมเข้าประชิดตัว น.ส.แพทองธาร และในวันนี้ เจ้าตัวสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าลายเขียว พร้อมสวมเสื้อสูทสีดำ ขณะที่กระโปรงเป็นกระโปรงทรงเอสีดำ และสะพายกระเป๋าสีดำ อีกทั้งไม่พบว่าสมาชิกรายอื่นภายในครอบครัว เดินทางมาด้วยแต่อย่างใด

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ กล่าวว่า อาการของนายทักษิณ ตอนนี้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ยังคงมีอาการน่าเป็นห่วงอยู่ และไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษ พร้อมกับไม่มีความกังวลใจอะไร เมื่อถามว่านายทักษิณ ยังใส่เครื่องช่วยหายใจหรือไม่ ทนายความไม่ตอบประเด็นนี้ ระบุว่า ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ ขอไปให้สัมภาษณ์ที่พรรคเพื่อไทยพรุ่งนี้แทน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังป่วยของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า สำหรับผู้ต้องขังที่มีอาการป่วย ผู้บัญชาการเรือนจำจะอนุญาตให้ผู้ต้องขังนั้น ได้รับการเยี่ยมญาติได้ โดยพิจารณาจากรายงานของแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ประจำสถานพยาบาลตามมาตรการดังต่อไปนี้

การเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังป่วย การติดต่อขอเยี่ยมผู้ต้องขังป่วยนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับทางโรงพยาบาลและเป็นไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ สามารถติดต่อขอเยี่ยมได้ในวันทำการราชการตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 16.00 น. หากเป็นทนายความ จะต้องเป็นทนายความที่ได้รับการแต่งตั้งการเป็นทนายความจากผู้ต้องขังแล้วเท่านั้น, วัดอุณหภูมิร่างกาย หากมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ให้ส่งผลการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ก่อนเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง, สามารถเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังได้ครั้งละไม่เกิน 30 นาที, ห้ามนำอุปกรณ์โทรศัพท์ หรือเครื่องมืออื่นใดที่สามารถทำการสื่อสาร ถ่ายรูป บันทึกเสียงเข้าภายในห้องเยี่ยมผู้ต้องขังโดยเด็ดขาด และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง

ทั้งนี้ บุคคลที่มีสิทธิเยี่ยมผู้ต้องขังป่วย ประกอบด้วย บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ภรรยาตามกฎหมาย บุตรธิดา หรือหลาน พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ลุง ป้า น้า อา บุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดหรือบุคคลที่ผู้ต้องขังป่วยร้องขอ อย่างไรก็ตาม บุคคลดังกล่าวข้างต้น ต้องเป็นบุคคลที่ผู้ต้องขังระบุรายชื่อไว้กับทางเรือนจำ ซึ่งมีจำนวนไม่เกิน 10 รายชื่อ ส่วนการเข้าเยี่ยมของบุคคลทั้งหมด ไม่จำเป็นว่าจะต้องเข้าภายในวันเดียวกัน แต่สามารถทยอยเข้าเยี่ยมในวันใดที่สะดวกก็ได้.