สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ว่า นายปาร์ค ซุง-ฮุน รมช.มหาสมุทรของเกาหลีใต้ แถลงเมื่อวันจันทร์ ว่านับจากนี้เป็นต้นไปภายในกรอบเวลา 100 วัน รัฐบาลเกาหลีใต้จะเพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจสอบว่า ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ค้าปลีกในท้องตลาด สามารถระบุที่มาของอาหารทะเลจากต่างประเทศได้อย่างชัดเจน
ผู้ประกอบการหรือบุคคลใดซึ่งไม่สามารถปฏิบัติตามได้ อาจต้องระวางโทษปรับสูงถึง 10 ล้านวอน (ราว 265,935.40 บาท) ส่วนผู้ที่ปลอมแปลงหลักฐาน อาจต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลานานสูงสุดถึง 7 ปี หรือปรับเป็นเงินสูงถึง 100 ล้านวอน (ราว 2.65 ล้านบาท) ทั้งนี้ เกาหลีใต้ระงับการนำเข้าอาหารทะเลทุกชนิดจาก 8 จังหวัดของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ นับตั้งแต่เกิดสึนามิที่ก่อให้เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์กับโรงไฟฟ้าแห่งนี้ เมื่อเดือน มี.ค. 2554
ขณะที่สถิติการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นโดยเกาหลีใต้ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อยู่ที่ 10,710 ตัน คิดเป็น 2% ของอาหารทะเลที่เกาหลีใต้นำเข้าจากต่างประเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเกาหลีใต้เกิดขึ้น หลังบริษัทไฟฟ้าโตเกียว (เทปโก) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานของโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ เริ่มการปล่อยน้ำบำบัดลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ด้านจีนประณามอย่างหนัก และระงับนำเข้าอาหารทะเลทั้งหมดจากญี่ปุ่น ส่วนรัฐบาลเกาหลีใต้ที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัฐบาลโตเกียว ค่อนข้างสงวนท่าที แต่ประชาชนจำนวนมาก เดินหน้าประท้วงในกรุงโซล จนต้องมีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย ให้กับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น.
เครดิตภาพ : AFP
