เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ที่ตลาดเมืองไทยภัทร โดยนายเศรษฐา กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า ส่วนใหญ่ที่รับฟังความคิดเห็นเป็นเรื่องของค่าของชีพ ค่าน้ำมัน ราคาแก๊ส และไฟ ทำให้วัตถุดิบในการประกอบการทำอาหารแพงขึ้น โดยการแก้ปัญหาต้องแก้ที่รากฐาน ซึ่งเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าหากมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก จะมีการประกาศนโยบายออกไป ส่วนเรื่องของตัวเลขต้องมีการพิจารณาก่อน ขอให้ใจเย็นอีกนิดหนึ่ง ขอให้ทราบตัวเลขที่แน่นอนก่อน แล้วจะแจ้งให้ทราบ

เมื่อถามว่า วันนี้นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT มาพบปัญหาว่าในช่วงเวลาเร่งด่วน ตู้โดยสารไม่เพียงพอ จะมีแผนรองรับอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงระบุว่า จะมีการเพิ่มตู้ ขณะนี้กำลังสั่งซื้ออยู่ ทั้งนี้ ตนได้พูดคุยกับผู้โดยสาร ซึ่งก็มีการตอบรับที่ดีว่าสะดวกสบาย ราคาเหมาะสม แต่ในช่วงเร่งด่วน จำนวนตู้โดยสารก็มีน้อยเกินไป 

เมื่อถามว่า ราคาค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย จะเริ่มได้เมื่อไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องขอไปพิจารณาก่อน จริงๆ แม้จะบอกว่าเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย แต่เราไม่ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว เรามีพรรคร่วมรัฐบาลอีก 10 พรรค ฉะนั้นจึงต้องไปพิจารณานโยบายโดยรวมก่อน ส่วนจะเป็นราคา 20 บาททุกสาย และใช้กับผู้ที่มีรายได้น้อยก่อนหรือไม่นั้น ต้องนำไปพิจารณาก่อนเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่า การลดค่าไฟจะสามารถทำได้ในระยะเวลา 4 เดือนเลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คงทำได้ก่อน ส่วนจะเป็นราคา 4.25 บาท ตามที่ภาคอุตสาหกรรมเรียกร้องหรือไม่นั้น ต้องขอไปพิจารณาก่อน แต่ก็เข้าใจโจทย์ว่าต้องการเท่าไร และจะพยายามจนสุดความสามารถ ทั้งนี้ ที่ไม่อยากบอกตัวเลขก่อน เพราะเดี๋ยวจะมีการผิดเพี้ยน แล้วมาต่อว่ากันได้ ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง

“จะถามกี่ครั้ง ก็ตอบไปไม่ได้มากกว่านี้ แต่ก็อยากจะตอบเหมือนกัน แต่อยากมีความมั่นใจในการตอบ” นายเศรษฐา กล่าว.