เรียกได้ว่ายังเป็นประเด็นร้อนที่โลกออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และพากันให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ สำหรับเรื่องราวของร้านอาหารชื่อดัง ได้ออกมาระบุว่า จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญากับเมนูปังชา จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์กันเป็นอย่างมาก แถมยังมีการยื่นโนติสไปถึงร้านที่ใช้คำว่า “ปังชา” และมีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าอีก โดยร้านแรกเรียก 102 ล้านบาท ส่วนร้านที่ 2 ถูกเรียก 7 แสนบาท และอีกหนึ่งร้านถูกเรียก 2 ล้านบาท จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์กันเป็นอย่างมาก ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ตัวแทนร้านทั้ง 3 ร้าน ที่ถูกร้าน “ปังชาคาเฟ่” ยื่นโนติสไป ได้มาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโหนกระแส พร้อมทั้งตัวแทนทางร้านปังชาคาเฟ่ โดยมี หนุ่ม กรรชัย เป็นพิธีกร ซึ่งทาง หนุ่ม กรรชัย แจ้งว่า ตอนแรกทางเจ้าของร้าน คุณแอน จะมาร่วมรายการด้วยตนเอง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มา เนื่องจากป่วยกะทันหัน จึงส่งทนายซึ่งเป็นตัวแทนมา พร้อมกันนี้ยังมี นางสาวทักษอร สมบูรณ์ทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา มาร่วมรายการด้วย

โดยทาง นางสาวทักษอร กล่าวว่า “เครื่องหมายการค้าคือสิ่งที่แปะอยู่บนตัวสินค้า และบริการ เพื่อบอกว่าใครเป็นคนผลิต ใครเป็นเจ้าของ ซึ่งเครื่องหมายการค้าจะต้องไม่มีคำ หรือข้อความที่เป็นคำอธิบายสินค้านั้นๆ คำๆ นั้นจึงต้องสละออกจากเครื่องหมายการค้า เพราะคนอื่นที่ขายของแบบเดียวกัน จึงควรมีสิทธิที่จะใช้คำๆ นั้น ในการอธิบายสินค้าของตัวเองเช่นเดียวกัน และในการจดสิทธิบัตรออกแบบผลิตภัณฑ์ ผู้ยื่นจะได้รับสิทธิคุ้มครอง ตามแบบที่ยื่นมาเป๊ะๆ ไม่สามารถดึงส่วนใดส่วนหนึ่งอ้างสิทธิได้ ต้องนำคำ และรูปที่ประกอบด้วยกันมาอ้างสิทธิ

เช่นเดียวกับคำว่า “ปังชา” ทางกรมฯ ไม่ได้มองว่าเป็นคำสามัญ เราไม่ได้มองว่าผู้จดเจตนาอย่างไร แต่เรามองว่าผู้บริโภคเห็นแล้วเข้าใจว่ายังไง ซึ่งเรามองก็เข้าใจว่าเป็นขนมปัง บวก ชา และสินค้าที่ขายในร้านคือขนมปังน้ำแข็งไสที่ใส่ชาไทย เราเห็นว่าเป็นคำที่เล็งถึงสินค้า จึงให้ร้านสละออก โดยเครื่องหมายการค้าที่ทางร้านจดคำขอทั้งหมดมี 9 คำขอ ซึ่งทุกคำขอจะมีการสละคำว่า “ปังชา” หรือ ชา หรือคำอธิบายทั่วไป เช่น ชาดังไกลระดับโลก หรือ The best Thai tea

ส่วนคำขอที่เป็นประเด็นคือคำขอที่เป็นโลโก้ร้าน ซึ่งเคยขอมาในปี 61 ได้มีการสละคำว่า “ปังชา” แต่หลังจากที่ขอมาใหม่ในปี 2565 ทางร้านได้แจ้งว่าได้ใช้เครื่องหมายการค้าแบบนี้ต่อเนื่องมานาน ผู้บริโภคเห็นแล้วนี่คือเครื่องหมายการค้าลูกไก่ทอง ซึ่งสามารถจดทะเบียนสิทธิตามกฎหมาย โดยไม่ต้องสละสิทธิคำว่า “ปังชา” แต่ผลการจดสิทธิเครื่องหมายการค้านั้น โลโก้ของทางร้านต้องใช้รวมกันทั้งหมด (ซึ่งประกอบด้วยคำว่า ปังชา ตัวอักษรจีประดิษฐ์ และคำว่า The best Thai tea) ซึ่งไม่สามารถแยกคำได้ ต้องไปด้วยกันทั้งหมด ไม่สามารถดึงเฉพาะคำว่า “ปังชา” ไปใช้ได้ แม้ว่าครั้งนี้จะไม่ได้สละสิทธิ แต่ไม่ใช่ว่าจะสามารถใช้แต่เพียงผู้เดียวได้ จึงอาจจะเป็นความคาดเคลื่อนของทางร้านเอง ที่เข้าใจด้วยตัวเองว่าทุกครั้งต้องสละสิทธิคำว่า “ปังชา” แต่รอบนี้ไม่ได้สละสิทธิ จึงคงคิดเอาไว้ได้คำว่า “ปังชา”

แต่จริงๆ ทุกครั้งที่เราจดทะเบียนกับผู้ประกอบการ เราได้อธิบาย และย้ำเสมอว่า เขาได้ไปแบบไหน ขอให้ใช้แบบนั้น ไม่มีการดึงส่วนใดส่วนหนึ่งไปอ้างสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นยืนยันคำว่า “ปังชา” เดี่ยวๆ สามารถใช้ได้ ขอแค่อย่ามาวางประกบให้เหมือนกับโลโก้ร้านที่จดเครื่องหมายการค้าแบบนี้”

ด้าน “ทนายอรรณพ บุญสว่าง” ทนายความของทางร้าน กล่าวว่า “ทางร้านยอมรับผิด คือเราต้องปกป้องสิทธิเราตามที่เราเข้าใจว่าถูกละเมิด แต่เมื่อมีการเข้าใจกันแล้ว เคลียร์กันแล้วต้องจบ ทางผู้บริหารเองก็จบมาหลายวันแล้ว ยินยอมให้ใช้ ต้องยอมรับในความผิดพลาด ผิดก็ต้องยอมรับ แก้ไข แก้ปัญหา เคลียร์กับสังคม”..