สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 2 ก.p. ว่า องค์การวิจัยอวกาศอินเดีย (ไอเอสอาร์โอ) ออกแถลงการณ์ว่า จรวด “พีเอสแอลวี-เอ็กซ์แอล” ทะยานขึ้นจากฐานปล่อยจรวด ภายในศูนย์อวกาศ สาทิช ธาวัน บนเกาะศรีหริโกฏะ ในอ่าวเบงกอล เมื่อเวลา 11.50 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ (13.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย) เพื่อนำส่งยาน “อาทิตยา-แอล1” เดินทางไปสำรวจพื้นผิวชั้นนอกสุดของดวงอาทิตย์


ทั้งนี้ ยานอาทิตยา-แอล 1 จะใช้เวลาเดินทางนาน 4 เดือน เป็นระยะทางราว 1.5 ล้านกิโลเมตร เพื่อให้ถึงจุดหมายที่เรียกว่า “จุดลากร็องฌ์ที่ 1” หรือ “แอล1” ซึ่งไอเอสแอลโอนำมาตั้งเป็นส่วนหนึ่งของชื่อยานสำรวจด้วย การที่แอล1 เป็นจุดที่อยู่ด้านหน้าโลกตลอดเวลา หมายความว่า การสังเกตการณ์ความเป็นไปของดวงอาทิตย์ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และปราศจากอุปสรรคกีดขวาง


แม้องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ (นาซา) และองค์การอวกาศยุโรป (อีเอสเอ) ส่งยานสำรวจดวงอาทิตย์แล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 1960 แต่หากการเดินทางของอาทิตยา-แอล1 ประสบความสำเร็จ อินเดียจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นประเทศแรกของเอเชีย ที่สามารถส่งยานสำรวจเดินทางเข้าสู่วงโคจรของดวงอาทิตย์


โครงการอวกาศของอินเดีย ขึ้นชื่อในเรื่องของความประหยัด โครงการสำรวจดวงจันทร์ “จันทรายาน-3” สร้างประวัติศาสตร์เป็นยานอวกาศลำแรกของโลก ที่สามารถลงจอดบนพื้นผิวบริเวณขั้วใต้ของดวงจันทร์ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยยานสามารถเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังเดินทางออกไปจากโลก เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ซึ่งโครงการจันทรายาน-3 ใช้งบประมาณ 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,651.78 ล้านบาท).

เครดิตภาพ : AFP