เรียกว่าเป็นอีกคอนเทนต์คุณภาพ เมื่อ มาร์ช – จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล พระเอกหน้าใส ได้ทำคลิป “ค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทจะพอใช้ไหม ถ้าต้องใช้ชีวิตแบบพนักงานออฟฟิศ 1 วัน” ลงในช่องยูทูบส่วนตัว “มีนาคม” ที่ออนแอร์ช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อทดลองใช้ชีวิตหนุ่มออฟฟิศ 1 วัน ด้วยเงินค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ตามนโยบายของ “พรรคก้าวไกล” (แกนนำจัดตั้งรัฐบาลในตอนนั้น) ซึ่งเพิ่มมาจากเดิม 353 บาท


โดยหนุ่มมาร์ชต้องตื่นแต่เช้าเพื่อวางแผนเดินทางไปทำงาน ด้วยรถสาธารณะทั้งหมด โดยเจ้าตัวใช้เงินตามจำเป็น มองหาของถูกและส่วนลด ซึ่งนอกจากค่าใช้จ่ายประจำวันแล้ว หนุ่มมาร์ชยังได้ 4 บทเรียนชีวิต ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด ทั้ง ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน ที่มาร์ชบาดเจ็บที่ข้อเท้ากระทันกัน , โปรโมชั่นและส่วนลด ที่เจ้าตัวไม่เคยคิดถึงมาก่อน , ค่าภาษีสังคม ที่มาร์ชต้องใส่ซองทำบุญ และบทเรียนชีวิตที่ 4 สังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน เมื่อชาวแก๊งเพื่อนตกลงกันไปกินหมูกระทะตอนเย็น ซึ่งนั่นทำให้มาร์ชลงเอยด้วยการที่เงินไม่พอ ต้องหยิบยืมเพื่อน ๆ เพื่อแชร์ค่าหมูกระทะนั้น

โดยท้ายคลิปมาร์ชยังได้สรุปให้ฟังถึงการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่เขาได้ ไม่ว่าจะเป็นวางแผนและเผื่อเวลาในการเดินทาง การไม่ตามใจปาก ท้ายสุดยังทำให้รู้ว่าเงินจำนวนนี้ไม่พอสำหรับเก็บเป็นเงินออม ก่อนสรุปว่าค่าแรงงานขั้นต่ำดังกล่าว แม้ปรับเพิ่มขึ้นมา ก็ยังไม่บาลานซ์กับค่าครองชีพในปัจจุบัน ซึ่งคอนเทนต์ดังกล่าวนี้ได้รับเสียงชื่นชมในโลกออนไลน์มากมาย อีกทั้งยังเป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ได้เห็นถึงปัญหา และเป็นการ Call Out เรื่องความเหลื่อมล้ำได้เป็นอย่างดี

ล่าสุด “บันเทิงเดลินิวส์” มีโอกาสได้พุดคุยกับหนุ่มมาร์ชถึงแรงบันดาลใจในการทำคอนเทนต์ดังกล่าว ไปจนถึงความตั้งใจในการเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนได้มาพูดถึงเรื่องความเดือดร้อนและปัญหาสังคมในพื้นที่สาธารณะของเขา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขด้วย
Q : เข้าสู่วงการยูทูบเบอร์ได้ยังไง?
“จุดเริ่มต้นแรกเบามาก คือผมแค่อยากเก็บสูตรอาหารของม่าม้าไว้ ผมไม่รู้จะทำแบบไหน เคยเอาโปรเจ็กต์นี้ไปเสนอที่เขาทำรายการ แต่เขาไม่ได้สนใจ ผมเลยทำขึ้นมาเอง จนสุดท้ายมันไปต่อได้ แต่ว่าหลัง ๆ เราเห็นจุดนึง คือผมเป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตแบบชอบตั้งคำถามกับนู่นนี่นั่น อยากพิสูจน์ หรือเราอยากรู้อะไร พอเรามีช่องทางยูทูบ มันสามารถให้คนดูเรียนรู้สิ่งที่เราตั้งคำถามนี้ ไปพร้อมเราได้ ผมรู้สึกแฮปปี้ เวลาคอมเมนต์เขาได้อะไรจากการดูคลิปเรา อย่างน้อยเขาได้ความรู้ หรือจุดประกายให้เขารู้สึกว่าเขาคิดต่อ แล้วเอาไปพัฒนากับตัวเขาได้ มันก็ฟินในรูปแบบคนทำครับ”

Q : เห็น “มาร์ช” ทำคอนเทนต์ “ค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทจะพอใช้ไหม ถ้าต้องใช้ชีวิตแบบพนักงานออฟฟิศ 1 วัน” อะไรเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้เราทำคอนเทนต์นี้?
“ประเด็นนี้มันก็เกิดจากการตั้งคำถามนี่แหละว่าจริง ๆ แล้วที่ออกนโยบายกันมา มันมีผลยังไงกับการใช้ชีวิต ซึ่งจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าเราไม่ออกไปใช้เอง เราออกไปทำเพื่อเรียนรู้ในหนึ่งวันแล้วให้คนดูเรียนรู้ไปพร้อมเรา จริง ๆ ผมทำออกมาก็หวังลึก ๆ ว่าอย่างน้อยคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เกี่ยวกับคนบริหารประเทศ ผมว่างานของเขาคงยุ่งมาก จนไม่สามารถลงมาทำอะไรอย่างนี้ได้ อย่างน้อยผมทำให้เห็น ผมเป็นเหมือนกระบอกเสียงนึงให้คนใช้ชีวิตแบบนี้ มาพิมพ์คอมเมนต์กัน ถ้าคลิปนั้นส่งไปถึงตรงนั้น แล้วเขาลงมาเห็นคลิปนี้ เขาลงมาอ่านคอมเมนต์ มันเหมือนการรีครูท (Recruit) ปัญหาทั้งหมด เราพับเป็นแฟ้มไว้ให้แล้ว ขอแค่เขาอ่าน เขาจะเห็นเลยว่าจริง ๆ แล้วตอนนี้ความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศต้องการอะไรครับ”





Q : ส่วนตัว “มาร์ช” อ่านคอมเมนต์ใต้คลิปรู้สึกยังไง?
“จะชื่นมั้ย ก็ชื่นใจในแง่คอมเมนต์ที่คนขอบคุณที่เราทำออกมา แต่จะชื่นใจทั้งหมดมั้ย ก็ไม่นะครับ เรายังเห็นปัญหาหลายอย่างที่เขามาระบายกัน และความลำบาก ปัญหาที่เขาเผชิญในความเป็นอยู่ มันก็เห็นอยู่ ถามว่าผมแก้ปัญหาให้เขาได้มั้ย ก็ไม่ มันเกินตัวผมไป แต่ว่าถามใจผมอยากให้ปัญหาเหล่านี้ ถูกแก้ไขมั้ย ก็ใช่ ผมไม่รู้ว่ามันคงดีขึ้นแหละ ถ้าเรามาใส่ใจเรื่องนี้ และพัฒนาปัญหาต่าง ๆ ในคลิป มันสะท้อนออกมาเยอะแยะมากมาย ”

Q : เห็นนอกจากนี้ ยังมีคลิปอื่น ๆ ที่ทำไลฟ์สไตล์สื่อถึงการพูดเรื่องการใช้จ่ายในชีวิต ปัญหาสังคม อยู่บ่อย ๆ ส่วนตัวตั้งใจมาแนวนี้เลย และอยากให้คนได้อะไรจากการดูคอนเทนต์เรามากที่สุด?
“จริง ๆ มันเป็นคอนเทนต์ที่เป็นประเด็นหลักอยู่แล้วในของช่องผมตั้งแต่ทำวันแรก แต่มันอาจต้องสลับบ้างในเชิงวาไรตี้ แต่ปัญหาสังคมผมทำมาตลอด ผมแค่หยิบขึ้นมา ไม่ได้ต้องการจุดประกายให้คนมาเรียกร้องอะไรกันนะครับ แต่แค่ผมมีช่องตรงนี้ เป็นโทรโข่ง ให้แต่ละคนมาพูดใส่โทรโข่งตรงนี้ มันอาจเสียงดังขึ้นครับ”