เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพศึกษานิเทศก์ พร้อมรับการประเมิน PISA 2025 ผ่านระบบ Zoom Meeting
เพื่อสื่อสารสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานเตรียมความพร้อมรับการประเมิน PISA 2025 พร้อมทั้งสร้างกรอบแนวคิดและขยายแนวคิดในการนำสื่อและเครื่องมือทางการประเมินความฉลาดรู้รูปแบบต่าง ๆ ไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนานักเรียน และสร้างกรอบแนวคิดในการใช้องค์ความรู้เกี่ยวกับการประเมินสมรรถนะพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนระดับห้องเรียน โดยมีศึกษานิเทศก์แกนนำ ของ สพป. จำนวน 183 คน สพม. จำนวน 62 คน คณะวิทยากร และนักวิชาการศึกษา จากสำนักทดสอบทางการศึกษา รวมทั้งสิ้น 270 คน ณ โรงแรมเอวาน่า เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
ดร.เกศทิพย์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญในการจัดการศึกษาและพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยการขับเคลื่อนทั้ง 3 ส่วนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ปรับปรุง พ.ศ. 2560) คือ มาตรฐานและตัวชี้วัดสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน 5 ด้าน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ โดยใช้การบูรณาการตัวชี้วัดในการเรียนรู้ ลดความซ้ำซ้อนในการเรียน ขับเคลื่อนการเรียนรู้โดยกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning สร้างประสบการณ์ในการเรียนรู้จากการปฏิบัติ นักเรียนได้คิด วิเคราะห์และแยกแยะ นักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติเกิดประสบการณ์ที่หลากหลาย ต่อยอดสู่การปรับประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมตามความถนัดและความสนใจ
ส่วนในด้านการวัดและประเมินผลนักเรียน จำเป็นต้องทบทวนการปฏิบัติว่า “เราจะทำอย่างไรให้สอดรับกับผู้เรียนที่ต้องเรียนรู้อย่างมีความสุขและนักเรียนสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับมาปรับประยุกต์ใช้ได้ รวมทั้งผนวกกับทักษะต่างๆ ที่เกิดจากการเรียนรู้ด้วยกระบวนการเรียนรู้ Active Learning ที่เราจัดการเรียนการสอน” ซึ่งหากเราสามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องและตรงประเด็น จะช่วยให้การสอบ PISA 2025 ที่กำลังจะมาถึงสามารถช่วยยกระดับผลประเมินของนักเรียนไทยได้ โดยการประเมินนักเรียนจะแบ่ง Domain หลักออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ การอ่านวิเคราะห์ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ดังนั้นภาพรวม นักเรียนจำเป็นต้องมีความฉลาดรู้ในเรื่องการอ่าน การจับประเด็น แยกแยะ วิเคราะห์ให้เหตุและผล เพื่อนำไปสู่กระบวนการตัดสินใจได้ รวมทั้งทักษะความรู้ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ด้วย
ดังนั้น การเตรียมการที่สำคัญที่สุดคือ การส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างเข้าใจ ฝึกฝนให้คุ้นชินกับการทำแบบทดสอบ ไม่ว่าจะเป็นแบบทดสอบออนไลน์ที่ สพฐ. มีการจัดทำคลังข้อสอบไว้ให้นักเรียนได้เข้าไปทดสอบและเรียนรู้ มีสื่อคอนเทนต์อีกหลากหลายรูปแบบที่ส่วนกลางจัดเตรียมไว้ให้ และส่งเสริมให้นักเรียนได้อ่านเพื่อแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่องจนเป็นผู้ที่ฉลาดรู้ หรือกล่าวโดยสรุปได้ว่า “นักเรียนต้องเข้าถึง คุ้นชินให้เกิดองค์ความรู้ที่นักเรียน” เมื่อนักเรียนทุกคนได้เป็นผู้เรียนที่แสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองแล้ว คุณภาพการศึกษาก็ย่อมสำเร็จและเกิดความยั่งยืนเป็นไปตามเป้าหมายหลักของ สพฐ. ทั้ง 3 Goals และยังมีผลพลอยได้ ซึ่งถือว่าเป็นกำลังใจให้แก่พวกเรา คือ ผลคะแนนการสอบ PISA 2025 ที่จะสูงขึ้นและเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ช่วยพิสูจน์และยืนยันถึงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของพวกเราให้เกิดขึ้นกับนักเรียนของเราทุกคน
“ทั้งนี้ ในกระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมา ศึกษานิเทศก์เป็นกลไกการขับเคลื่อนที่สำคัญ เป็นแกนหลักในการสร้างความคุ้นชินของการใช้เครื่องมือประเมิน โดยเริ่มจากการประเมินผ่าน paper-based assessment สู่การประเมิน computer-based assessment และนำแนวทางการประเมินเข้ามาช่วยให้ถึงโรงเรียน ง่ายต่อการนำไปใช้ในระดับห้องเรียน และเข้าถึงนักเรียนทุกคนทุกกลุ่มให้ได้รับการประเมินตามแนว PISA ได้เร็วที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ศึกษานิเทศก์จึงจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ เพื่อเป็นผู้ที่มีความพร้อม และขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว