ศึกกอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ ปอร์ตแลนด์ คลาสสิค ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่สนามโคลอมเบีย เอดจ์วอเตอร์ คันทรี คลับ พาร์ 72 ในเมืองปอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา จบรอบ 4 หรือรอบสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “โปรพราว” ชเนตตี วรรณแสน  ดัวกระหึ่มอเมริกา สื่อต่างประเทศรุมตีข่าว เป็รม้ามืดวัย 19 ปี ผงาดคว้าแชมป์ได้สำเร็จ และเป็นแชมป์รายการแอลพีจีเอทัวร์ ครั้งแรกในชีวิต หลังจากรอบสุดท้ายเก็บเพิ่มอีก 9 อันเดอร์พาร์ 63 สกอร์รวมเป็น 26 อันเดอร์พาร์ 262( 68-66-65-63) เฉือนอันดับ 2 หยิน ฉียู่ จากจีน ซึ่งจบที่ 22 อันเดอร์พาร์ 266 (71-65-66-64) ไป 4 สโตรก ขณะที่อันดับ 3 ร่วม เป็น หยิน รั่วหนิง (จีน) จีน่า คิม (สหรัฐ) และแคโลตา ชิกันดา (สเปน) 20 อันเดอร์พาร์ 268

“โปรพราว” เป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 7 ที่ได้แชมป์แอลพีจีเอทัวร์  ต่อจาก เอรียา จุฑานุกาล (12 รายการ), โมรียา จุฑานุกาล (2), ปาจรีย์ อนันต์นฤการ (2), ธิฎาภา สุวัณณะปุระ (2), อาฒยา ฐิติกุล (2), และ ปภังกร ธวัชธนกิจ (1)

ขณะที่ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล และ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล ก็ทำผลงานในรายการนี้ได้ดีเช่นกัน ต่างคว้าอันดับ 7 ร่วม ด้วยสกอร์ 18 อันเดอร์พาร์ 270 เท่ากัน ซึ่งนับเป็นการจบอันดับท็อป 10 รายการที่ 9 ใน แอลพีจีเอทัวร์  ของ “โปรจีน”ในปีนี้

ส่วนผลงานของโปรสาวไทยคนอื่น ๆ 14 อันเดอร์พาร์ (อันดับ 18 ร่วม) ปวริศา ยกทวน 13 อันเดอร์พ่าร์  (อันดับ 21 ร่วม) ธิฎาภา สุวัณณะปุระ,11 อันเดอร์พาร์  (อันดับ 34 ร่วม) พรอนงค์ เพชรล้ำ,9 อันเดอร์พาร์  (อันดับ 45 ร่วม) โมรียา จุฑานุกาล และ 8 อันเดอร์พาร? (อันดับ 49 ร่วม) ปภังกร ธวัชธนกิจ

สำหรับการคว้าแชมป์ครั้งนี้ ไม่มีใครคาดคิด เพราะ “โปรพราว” สาวน้อยวัย 19 ปี มาจากรอบคัดเลือก  และทำลายสถิติ 72 หลุม  21 อันเดอร์พาร์ ในรายการนี้ลงได้  ทั้งที่ก่อนทัวร์นาเมนต์นี้ ไม่ผ้านตัดตัวในการลงเล่นแอลพีจีเอทัวร์มาถึวง 9 ครั้ง  และเป็นโปรที่มาจากรอบคัดเลือก เข้ามาคว้าแชมป์รายการยนี้ได้เป็นคนแรก นับตั้งแต่ บรูค เฮนเดอร์สัน ของแคนาดา ทำไหด้ในปี 2015

“โปรพราว” ชเนตตี ที่รั้งอันดับ 367 โลก ก่อนลงแข่งรายการนี้  ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม หลังคว้าแชมป์ว่า “แชมป์นี้เป็นทุกอย่างสำหรับหนู หนูพลาดการตัดตัว 9 ครั้งก่อนทัวร์นาเมนต์นี้ หนูทำงานอย่างหนักเพื่อให้มันเกิดขึ้น และมันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ”

นอกจากนั้น ก่อนแข่ง ชเนตตี  ยังไม่เคยติดท็อป 50 ในแอลพีจีเอทัวร์ปีนี้เลย รั้งอันดับที่ 51 ในการลงแข่งทื่ประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์ และอันดับที่ 57 ทัวร์นาเมนต์ที่ซูเปอร์สติชั่น เมาเทน รัฐอริโซนา  เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา  แต่ในรอบสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “โปรพราว” ทำ 7 เบอร์ดี 1` อีเกิ้ล คว้าเงินรางวัลสูงสุด 225,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7.9 ล้านบาท กลับบ้าน หลังจากที่เคยคว้าเงินรางวัลได้สูงสุเ เพียง 14,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.1 แสนบาท ในศึกแอลพีจีเอทัวร์ ปี 2023

 “โปรพราว” กล่าวด้วยว่า ในรอบสุดท้ายแม้จะอยู่ในช่วงลุ้นแชมป์ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต แต่สามารถรักษาความเยือกเย็น และสมาธิไว้ได้ ด้วยความช่วยเหลือจากแคดดี้ คู่ใต “หนูมักจะพูดคุยกับแคดดี้ของหนู แคดดี้ช่วยหนูได้มาก จริงๆ แล้วหนูรู้สึกตื่นเต้นมากแต่ก็ควบคุมจิตใจได้ หนูจึงสงบสติอารมณ์ได้”

ที่สำคัญ การคว้าแชมป์ครั้งนี้ ชเนตตี กลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 10 ที่คว้าแชมป์แรกของตัวเองในทัวร์ปีนี้ และได้สิทธิ์เล่นทัวร์ 2 ปี พร้อมกับเล่นรายการเปิดฤดูกาลในปี 2024/2025