เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่โรงแรมมารวยการ์เด้น นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า กทพ. จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (สรุปผลการคัดเลือกแนวสายทาง) งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการระบบทางพิเศษ(ด่วน) ขั้นที่ 3 สายเหนือ ระยะที่ 2 ส่วนทดแทน (ตอน N1 ศรีรัช-ถนนประเสริฐมนูกิจ) ซึ่งจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า ทางเลือกที่ 2.2 เป็นแนวสายทางที่เหมาะสมที่สุด เป็นอุโมงค์ใต้ดินทั้งหมด ระยะทาง 6.7 กิโลเมตร(กม.) มีจุดเริ่มต้นบริเวณทางด่วนศรีรัชตัดกับถนนงามวงศ์วาน แนวสายทางไปตามแนวถนนงามวงศ์วาน ผ่านแยกพงษ์เพชร แยกบางเขน แยกเกษตร เข้าถนนประเสริฐมนูกิจ เชื่อมต่อกับตอน N2 ถนนประเสริฐมนูกิจ-ถนนวงแหวนรอบนอกฯ

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า จากการรับฟังความคิดเห็นเบื้องต้น ประชาชนส่วนใหญ่ยังห่วงกังวล 3 ประเด็น ได้แก่ 1.ระบบความปลอดภัยในอุโมงค์ 2.การเยียวยาระหว่างการก่อสร้าง และ 3.ปัญหาการจราจร ซึ่งขอบคุณทุกคนที่ตั้งประเด็นต่างๆ โดยจะนำไปพิจารณา และทำทุกวิถีทางในทุกราคา และทุกต้นทุนที่มี เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าข้อห่วงใยต่างๆ ได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง และปลอดภัยแท้จริง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ยังต้องรับฟังความคิดเห็นประชาชนกันอีก คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 67 จากนั้นจะเสนอผลศึกษาต่อคณะกรรมการ(บอร์ด) กทพ. และคณะรัฐมนตรี(ครม.) ประมาณปี 68 คาดว่าเปิดประมูลปี 69 เริ่มก่อสร้างปี 70 ใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี แล้วเสร็จ และเปิดบริการประมาณปี 75  

นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า อุโมงค์ทางด่วน N1 มี 4 ช่องจราจร จะสร้างเป็นอุโมงค์ใต้ดิน 2 ชั้นๆ ละ 2 ช่องจราจร โดยเส้นทางจากด่วนศรีรัชมุ่งหน้าถนนนวมินทร์จะอยู่ชั้นบน ส่วนเส้นทางจากถนนนวมินทร์ไปทางด่วนศรีรัช จะอยู่ชั้นล่างอุโมงค์มีความกว้างประมาณ 16 เมตร และลึกประมาณ 40 เมตร โดยบริเวณแยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อุโมงค์ทางด่วนจะสร้างอยู่เหลื่อมๆ กันกับอุโมงค์ทางลอดแยก ม.เกษตรศาสตร์ ไม่ได้อยู่ซ้อนกัน ถือเป็นทางด่วนใต้ดินสายแรกของประเทศไทย และในอาเซียนยังไม่มีการก่อสร้าง ขณะที่ในเอเชีย ประเทศญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

นายสุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ระยะที่ 1 (ตอน N2 ถนนประเสริฐมนูกิจ-ถนนวงแหวนรอบนอกฯ ด้านตะวันออก) ระยะทาง 11.3 กม. วงเงินประมาณ 16,960 ล้านบาท โครงการนี้เป็นทางด่วนที่มีเสาตอม่อ ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางถนนเกษตร-นวมินทร์ ประมาณ 281 ต้น มานาน 25 ปี ขณะนี้เสนอโครงการไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว เตรียมเสนอ ครม.ชุดใหม่พิจารณา หากผ่านความเห็นชอบ คาดว่า กทพ. จะสามารถเปิดประกวดราคาได้ประมาณปลายปี 66  ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จ และพร้อมเปิดให้บริการประมาณปี 70

ด้านนายประเทือง อินคุ้ม วิศวกรเชี่ยวชาญด้านอุโมงค์ กล่าวว่า อุโมงค์ทางด่วน N1 ให้บริการเฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ ไม่อนุญาตให้รถบรรทุกใช้งาน การทำอุโมงค์ทางด่วนได้ศึกษา และเปรียบเทียบของต่างประเทศ อาทิ ตุรกี และสหรัฐอเมริกา ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย ภายในอุโมงค์มีระบบระบายอากาศ, ไฟฟ้าแสงสว่าง, ระบบหนีไฟ, ระบบป้องกันน้ำท่วม และมีปล่องระบายอากาศ 4 ช่วง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอพยพคนได้ทันที มีจุดให้ออกผนังด้านข้างจัดไว้เป็นเซฟตี้โซนทุกๆ 250 เมตร มีบันได และลิฟท์อพยพคน ปัจจุบันอุโมงค์รถยนต์ทั่วโลกมี 395 อุโมงค์ มีระยะทาง 5-30 กม. อุโมงค์ N1 เป็นอุโมงค์ที่อยู่ในกลุ่มระยะทางไม่มาก มีระยะทาง 6-7 กม. มีความลึกเทียบได้ประมาณตึก 15 ชั้น

นายประเทือง กล่าวต่อว่า อุโมงค์ทางด่วน N1 มีทางเข้าออกแค่ตรงหัว และท้ายอุโมงค์ จะไม่มีทางเข้าออกระหว่างทาง ส่วนข้อกังวลว่าหากรถติดยาวอยู่ในอุโมงค์จะไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์มือถือได้นั้น จะไม่เกิดปัญหานี้ เพราะจะติดตั้งตัวอุปกรณ์เราเตอร์(Router) และเดินไฟเบอร์ออฟติกในอุโมงค์ เพื่อให้สามารถใช้งานโทรศัพท์มือถือได้ตามปกติ นอกจากนี้แม้จะให้รถยนต์ใช้อุโมงค์ N1 ได้เท่านั้น แต่เราได้ออกแบบความสูงไว้ที่ 4.50 เมตร เพื่อให้รถดับเพลิง หรือรถฉุกเฉินสามารถเข้าไปช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉินได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ตอน N1 ศรีรัช-ถนนประเสิรฐมนูกิจ มีมูลค่าลงทุนประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท การประชุมครั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่แสดงความห่วงใยเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานของอุโมงค์ทางด่วน N1 การป้องกันน้ำท่วม การขนย้ายดินในระหว่างการก่อสร้าง จะทำให้ไม่เกิดผลกระทบการจราจรอย่างไร การเวนคืนที่ดินจะได้รับผลกระทบพื้นที่ใดบ้าง และคุณภาพอากาศที่ระบายออกมาจากอุโมงค์ จะสร้างผลกระทบต่อชาวบ้านในละแวกนั้นหรือไม่ นอกจากนี้อยากให้มีทางเข้าออกอุโมงค์ระหว่างทางด้วย.