สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงราบัต ประเทศโมร็อกโก เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ว่ากระทรวงมหาดไทยโมร็อกโกรายงาน จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 6.8 แมกนิจูด ในพื้นที่หุบเขา ใกล้กับเมืองมาร์ราเกช ที่เป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ เมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เพิ่มเป็นอย่างน้อย 2,012 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 2,059 คน


ทั้งนี้ เมืองอัล-ฮาอูซ ได้รับความเสียหายมากที่สุด เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของแผ่นดินไหว นอกจากนี้ แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ไกลถึงกรุงราบัต และเมืองคาซาบลังกา ที่อยู่ห่างขึ้นไปทางเหนืออีกหลายร้อยกิโลเมตร


รัฐบาลโมร็อกโกประกาศเมื่อวันเสาร์ ไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน ส่วนสำนักงานกาชาดโมร็อกโกเตือนว่า การฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยต้องใช้เวลานานหลายปี


ด้านสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) และนานาประเทศ ร่วมแสดงความเสียใจ พร้อมทั้งแสดงความพร้อมมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ รัสเซีย จีน กลุ่มประเทศอาหรับ และอิสราเอล ซึ่งเพิ่งสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับโมร็อกโก เมื่อปี 2563


ขณะที่แอลจีเรียซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ไม่ดีนักกับโมร็อกโก ประกาศยกเลิกมาตรการระงับเที่ยวบินเข้าและออกโมร็อกโกผ่านน่านฟ้า ซึ่งบังคับใช้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เที่ยวบินลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากนานาชาติสามารถเดินทางผ่านได้


อนึ่ง แผ่นดินไหวครั้งนี้ถือว่า รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ นับตั้งแต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง ที่เมืองอัล โฮไซมา ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทเมื่อปี 2547 แรงสั่นสะเทือนครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 628 ราย และแผ่นดินไหวรุนแรง เมื่อปี 2503 คร่าขีวิตประชาชนในโมร็อกโกมากกว่า 12,000 ราย.

เครดิตภาพ : AFP