หลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินเครื่องเรียกสอบปากคำ 25 ตำรวจ รวมถึงแขกที่ไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านของ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ภายหลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. หรือ สารวัตรแบงค์ ถูกยิงเสียชีวิตในงานเลี้ยงดังกล่าว โดยผู้ลงมือคือ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา ลูกน้องกำนันคนดังซึ่งต่อมาถูกวิสามัญเรียบร้อย
โดย 6 ตำรวจที่ถูกออกหมายจับและให้ออกจากราชการล่าสุดมีดังนี้
1.พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข อายุ 52 ปี สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หมายจับเลขที่ 476/2566 ลงวันที่ 9 ก.ย.66 ข้อหา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ มาตรา 184 ช่วยเหลือไม่ให้ผู้กระทำผิดต้องรับโทษฯ และ มาตรา 189 ซ่อนเร้นพยานหลักฐานฯ
2.ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร อายุ 59 ปี รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. หมายจับเลขที่ 479/2566 ลงวันที่ 9 ก.ย.66 ข้อหา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ มาตรา 184 ช่วยเหลือไม่ให้ผู้กระทำผิดต้องรับโทษฯ และ มาตรา 189 ซ่อนเร้นพยานหลักฐานฯ
3.ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ อายุ 58 ปี รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. หมายจับเลขที่ 477/2566 ลงวันที่ 9 ก.ย.66 ข้อหา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ มาตรา 184 ช่วยเหลือไม่ให้ผู้กระทำผิดต้องรับโทษฯ และ มาตรา 189 ซ่อนเร้นพยานหลักฐานฯ
4.ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล อายุ 57 ปี รอง สว.จร.สภ.เมืองนครปฐม หมายจับเลขที่ 478/2566 ลงวันที่ 9 ก.ย.66 ข้อหา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ มาตรา 184 ช่วยเหลือไม่ให้ผู้กระทำผิดต้องรับโทษฯ และ มาตรา 189 ซ่อนเร้นพยานหลักฐานฯ
5.ร.ต.ท.ประสาร รอดผล อายุ 58 ปี รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. หมายจับเลขที่ 480/2566 ลงวันที่ 9 ก.ย.66 ข้อหา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ มาตรา 184 ช่วยเหลือไม่ให้ผู้กระทำผิดต้องรับโทษฯ และ มาตรา 189 ซ่อนเร้นพยานหลักฐานฯ
6.ร.ต.ต.สรรเสริฐ ศรีสวัสดิ์ อายุ 55 ปี รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. หมายจับเลขที่ 481/2566 ลงวันที่ 9 ก.ย.66 ข้อหา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ มาตรา 184 ช่วยเหลือไม่ให้ผู้กระทำผิดต้องรับโทษฯ และ มาตรา 189 ซ่อนเร้นพยานหลักฐานฯ
ทั้งนี้สำหรับอัตราโทษหนักสุด มาตรา 157 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1 ปี ถึง 10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 184 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.