สื่อท้องถิ่นนิวซีแลนด์ รายงานข่าวของ จิลล์ และ วอร์เรน เพรสส์ สองสามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่โดยสารเครื่องบินสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เพื่อเดินทางจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กลับสู่นิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นบ้านเกิด เมื่อเดือน มิ.ย. 2566 

เมื่อขึ้นเครื่องเรียบร้อย ทั้งสองแปลกใจมากที่ผู้โดยสารซึ่งนั่งติดกับพวกเขา นำสุนัขขึ้นเครื่องบินมาด้วย จิลล์ เพรสส์ เล่าว่าหลังจากนั้น เธอได้ยินเสียงคล้ายเสียงกรนที่ดังมาก ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นเสียงโทรศัพท์ของสามี แต่เมื่อมองดูดี ๆ กลับพบว่าเป็นเสียงกรนของสุนัขของผู้โดยสารที่นั่งติดกับพวกเขา

จิลล์ เพรสส์ กล่าวว่า เธอคิดว่าจะไม่ยอมให้สุนัขตัวนี้มานั่งติดกับเธอไปตลอดทางแน่ เธอยังได้ยินเจ้าของสุนัขพูดกับผู้โดยสารอีกคนว่า เขามักจะวิตกกังวลเวลาขึ้นเครื่องบิน และจำเป็นต้องมีสัตว์เลี้ยงอยู่ข้าง ๆ เขา

อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ตัดสินใจนั่งที่เดิมซึ่งเป็นที่นั่งชั้นประหยัดแบบพรีเมียม หลังจากที่ลองเจรจาขอย้ายที่นั่งกับพนักงานบนเครื่องแล้วพบว่า มีเพียงที่นั่งแถวหลังเครื่องในชั้นประหยัดเท่านั้น ที่ยังว่างอยู่

สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เมื่อพวกเขาเดินทางมาได้ครึ่งทางแล้ว สุนัขตัวดังกล่าวก็เริ่มผายลมออกมา จิลล์ เพรสส์ ยังกล่าวเสริมว่า มันนอนกินที่มาถึงพื้นที่วางขาของที่นั่งของสามีเธอ 

เจ้าของสุนัขตัวนั้นไม่สามารถพาสุนัขออกมานอนตรงทางเดินได้ เพราะจะเกะกะขวางทางรถเข็นสินค้าและอาหารบนเครื่อง มันจึงต้องขยับเข้ามาด้านใน ส่วนหัวของมันอยู่ใต้เท้าของ วอร์เรน เพรสส์ ซึ่งสวมกางเกงขาสั้น ทำให้ขาของเขาเปื้อนน้ำลายสุนัขตัวนั้นเต็มไปหมด

สุดท้ายสองสามีภรรยาก็ได้ย้ายไปนั่งตรงที่ที่สงวนไว้ให้สำหรับลูกเรือบนเครื่อง พร้อมกันนั้น พนักงานยังบอกพวกเขาว่า จะส่งรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นไปยังบริษัท ซึ่งจะติดต่อกลับมาภายหลัง 

สายการบินส่งอีเมลมายังสองสามีภรรยาในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา โดยเสนอบัตรกำนัลมูลค่า 74 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,624 บาท) สำหรับซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ KrisShop ในเครือสิงคโปร์แอร์ไลน์ เป็นการชดเชย

จิลล์ เพรสส์ ตอบกลับไปว่าข้อเสนอดังกล่าว ไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าที่ต่างกันระหว่างที่นั่งชั้นพรีเมียมกับที่นั่งชั้นประหยัด ซึ่งพวกเขาต้องย้ายไปนั่งในภายหลัง ทางสายการบินจึงเปลี่ยนเป็นมองบัตรของขวัญให้คนละ 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7,094 บาท) 

แต่สองสามีภรรยาก็ยังไม่พอใจ และเรียกร้องให้บริษัทคืนเงินค่าตั๋วโดยสารเต็มจำนวนของเที่ยวบินนั้น แก่พวกเขา ซึ่งก็ยังไม่มีการรายงานเพิ่มเติมว่า สายการบินยอมตกลงหรือไม่

ด้านโฆษกของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ก็ได้กล่าวขออภัยต่อความไม่สะดวกที่ทั้งคู่ได้รับในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ต่อผู้สื่อข่าว โดยอ้างว่าตามปกติ สายการบินจะแจ้งล่วงหน้า ถ้าหากผู้โดยสารท่านใดมีที่นั่งติดกับสัตว์เลี้ยงซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย แต่ในกรณีนี้ได้เกิดความผิดพลาด และไม่ได้แจ้งให้สองสามีภรรยารับทราบ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้โดยสารแจ้งความประสงค์จะย้ายที่นั่งเช่นในกรณีนี้ ทางสายการบินสามารถย้ายให้ได้เฉพาะที่นั่งว่างที่เหลืออยู่ในพื้นที่ของชั้นโดยสารนั้น ๆ เท่านั้น

ที่มา : foxbusiness.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES