สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ว่า มัสก์สร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลไทเป จากการเปรียบเทียบไต้หวันเป็นเหมือนรัฐฮาวายของสหรัฐ และเรียกว่าเป็น ส่วนสำคัญของจีน
“มัสก์ยกยอจีนโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ และถ้าความคิดเห็นของเขามาจากผลประโยชน์ทางการค้า สิ่งนั้นก็ไม่คู่ควรแก่การใส่ใจ และผู้พูดก็ไม่สมควรได้รับความเคารพเช่นกัน” นายเจฟฟ์ หลิว โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน กล่าวกับผู้สื่อข่าว “เราไม่รู้ว่า เจตจำนงเสรีของมัสก์ มีไว้ขายหรือไม่ แต่ไต้หวันไม่ได้มีไว้ขายอย่างแน่นอน”
ก่อนหน้านี้ นายโจเซฟ อู๋ รมว.การต่างประเทศไต้หวัน วิพากษ์วิจารณ์มัสก์ในโพสต์ บนสื่อสังคมออนไลน์ “เอ็กซ์” โดยเสนอแนะให้มัสก์ไปร้องขอให้พรรคคอมมิวนิสต์จีน เปิดบริการแพลตฟอร์มของเขา ให้กับประชาชนในประเทศ
อนึ่ง นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งแรกที่มัสก์จุดประกายความโกรธเคืองในไต้หวัน โดยล่าสุดในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีว่า ไต้หวันจะรวมเข้ากับจีน “อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
ทั้งนี้ รัฐบาลปักกิ่งกล่าวอ้างมาโดยตลอดว่า ไต้หวันเป็นดินแดนที่รอ “การรวมประเทศ” อีกทั้งทางการจีนยังเพิ่มแรงกดดันมากขึ้น นับตั้งแต่ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ชนะการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งผู้นำไต้หวัน เมื่อปี 2559
ขณะที่มัสก์ ซึ่งเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมา และมีผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ครอบคลุมในจีน มักจะพูดถึงประเด็นทางสังคมและภูมิรัฐศาสตร์ ในความคิดเห็น ซึ่งเขาโพสต์บนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเอง.
เครดิตภาพ : AFP
