ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรกิจ อินอ่ำ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ จว.ชลบุรี ชุดปฏิบัติการ PCT 1 นำโดย พ.ต.ท.ภารกร นภาโชติ รอง ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วิศรุต ละเอียดอ่อง รอง ผกก.สส. บก.ตม.3, พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ต.สุริโย ไชยยอด สว.กก.สส. บก.ตม.3, พ.ต.ต.จตุรโชค เพชรคง สว.กก.สส. บก.ตม.3 มีผลการปฏิบัติดังนี้

จากกรณีชุด PCT1 ได้เปิดปฏิบัติการจับกุมเจ้าของเว็บไซต์ www.absolute-angels-bangkok.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เคยขึ้นฟีด อันดับ 1 จนมีการจับกุมและยึดทรัพย์กว่า 40 ล้านบาท ชุดสืบสวนพบว่าจากการตรวจสอบในหน้าฟีดเกี่ยวกับเว็บไซต์ขายบริการทางเพศแก่ชาวต่างชาติ ก็พบว่ายังมีอีกหลายเว็บไซต์ จึงได้รีบดำเนินการสืบสวนจับกุมต่อเนื่อง ซึ่งในการสืบสวนครั้งนี้มีการเข้าไปตรวจสอบเว็บไซต์ smooci.com พบว่าเป็นเว็บไซต์หญิงสาวขายบริการที่ให้บริการอยู่หลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ในรายละเอียดของขบวนการจากการสืบสวนโดยการเฝ้าติดตามและซักถามข้อมูลก็พบว่าเป็นเครือข่าย มีจำนวนหลายคน แบ่งหน้าที่กันทำ

โดยขบวนการนี้พบว่ามี น.ส.อิงปวัน (นามสมมติ) เป็นแอดมินหลักคอยบริหารจัดการในภาพรวม มีนายปุนวัฒนา (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ผู้ช่วยแอดมินทำหน้าที่คอยจัดการเรื่องการตามเก็บเงินและรวมรวมเงินจากหญิงขายบริการในสังกัด และมีกลุ่มของผู้ช่วยแอดมินอีกส่วนที่ทำหน้าที่เป็น call center คอยประสานงานนัดหมายคิวงานในแต่ละวัน ซึ่งพบว่าหมุนเวียนเปลี่ยนมาทำงานในแต่ละวัน ขบวนการนี้พบว่ามีการบริหารจัดการเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมเป็นอย่างดี โดยพบว่ามีการใช้ระบบโทรศัพท์ VoIP เข้ามาใช้ ซึ่งผู้ทำหน้าที่รับสายจะหลบอยู่สถานที่แตกต่างกัน โดยมีในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ จ.นครราชสีมา จ.สมุทรปราการ และ กรุงเทพฯ แต่ต้นสายนั้นสืบสวนพบว่ามาจากย่านห้วยขวาง และพบว่าในห้วงต้นเดือนนี้ที่ผ่านมาได้มีการปรับเปลี่ยนระบบมาใช้บัญชีลักษณะคล้ายบัญชีม้ารับแทน และมีแอปพลิเคชันชื่อว่า FLAVR ซึ่งเขียนขึ้นและนำมาใช้บริหารจัดการเฉพาะกลุ่มหญิงค้าประเวณี เพื่อแสดงรายละเอียดของลูกค้า จำนวนชั่วโมง จำนวนเงิน และรายได้

เมื่อได้ข้อมูลหลักฐาน รวมถึงสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับเชื่อว่ามีการกระทำความผิดแล้ว จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ จนกระทั่งอนุมัติศาลจังหวัดพัทยา ได้ออกหมายจับ ที่ 508/2566, 509/2566 และ 510/2566 ลงวันที่ 16 ก.ย. 66 ให้จับตัว น.ส.อิงปวัน แอดมินหลัก, นายปุนวัฒนา ผู้ช่วยแอดมิน ดูแลการเงิน และนายนิตตะ (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้ช่วยแอดมินซึ่งเป็น call center ข้อกล่าวหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, ช่วยเหลือให้ความสะดวกหรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น, รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือผู้ซึ่งค้าประเวณี และจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการฯ” จากนั้นได้ขอนุมัติหมายค้นตามจุดต่างๆ เพื่อจับกุมและตรวจค้นหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยมีการปฏิบัติการในวันที่ 19 ก.ย. 66 มีรายละเอียดแต่จะจุดดังนี้

จุดที่ 1 หมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้น คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท 50 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ผลการตรวจค้นพบ น.ส.อิงปวัน พักอาศัยเพียงลำพังในห้อง ผลการตรวจค้นพบหลักฐานเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งเข้าใช้ระบบบริหารจัดการจำนวนหลายเว็บไซต์ รวมถึงเว็บไซต์ smooci.com ด้วย พบโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง ซึ่งใช้ติดต่อสื่อสารในการทำงานเกี่ยวกับการค้าบริการให้กับชาวต่างชาติ พบสมุดจดรายรับรายจ่ายการค้าบริการ จึงได้จับกุมตัว น.ส.อิงปวัน ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ และตรวจยึดของกลางอันได้แก่ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 3 เครื่อง เอกสารอื่นๆ จำนวนหนึ่ง รถยนต์ ยี่ห้อ เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น GLA 200 สีดำ ทะเบียน 42 กรุงเทพมหานคร มูลค่า 2,199,000 บาท (ทรัพย์ตามมาตรการปราบปรามการฟอกเงิน)

จุดที่ 2 หมายค้นศาลอาญา ซึ่งเป็นอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านแฮปปี้แลนด์ คลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ผลการตรวจค้นพบ นายปุนวัฒนา พักอาศัยตามลำพัง ผลการตรวจค้นพบคอมพิวเตอร์ มินิพีซี 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง ที่ใช้ในการทำงาน นายปุนวัฒนา รับว่ามีหน้าที่เป็นผู้ช่วยแอดมินมีหน้าที่ติดตามเงินส่วนแบ่งของแพลตฟอร์มเว็บไซต์ จากหญิงบริการซึ่งรับเงินมาจากลูกค้า โดยติดค่าบริการที่ 25% จากยอดค่าบริการ นายปุนวัฒนา รับค่าจ้างเดือนประจำละประมาณ 15,000 บาท ไม่รวมรายได้พิเศษอย่างอื่น และรับว่ายังมีหน้าที่ดูแลออฟฟิศซึ่งมีการติดตั้งระบบโทรศัพท์ VoIP และเป็นที่เก็บของ จึงได้นำพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็พบว่ามีลักษณะเป็นหักเช่าในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง พบสภาพห้องโทรมร้างเก็บของเก่าบางส่วนและมีเอกสาร แต่มีการติดตั้งระบบโทรศัพท์ VoIP และมีคอมพิวเตอร์ให้พนักงานนั่งทำงานได้ นายปุนวัฒนา ให้ข้อมูลว่า สถานที่แห่งนี้สามารถมาอยู่และทำงานได้แต่ภายหลัง ได้ให้พนักงานที่ติดต่อประสานงานในแต่ละวัน นำระบบไปติดตั้งที่พักของพนักงานซึ่งอยู่ต่างสถานที่กัน ใน จ.นครสวรรค์ จ.นครราชสีมา จ.สมุทรปราการ โดยสามารถทำงานที่บ้านได้เลย สะดวกและหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ด้วย จึงได้มีการตรวจยึดอุปกรณ์ อันได้แก่ คอมพิวเตอร์ พีซี 1 ชุด คอมพิวเตอร์ มินิ พีซี Intel 3 เครื่อง ชุด Router พร้อมอุปกรณ์ขยายสัญญานอินเทอร์เน็ต 1 ชุด อุปกรณ์ Sim Box Gateway สำหรับ VoIP จำนวน 3 ชุด ซิมการ์ด จำนวน 48 แผ่น

จุดที่ 3 หมายค้นศาลจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็น บ้านพักแห่งหนึ่งในหมู่ 3 ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ผลการตรวจค้น พบนายนิตตะ พักอาศัยอยู่ ตรวจค้นพบ คอมพิวเตอร์ มินิ พีซี Intel ซึ่งต่อพ่วงกับโทรศัพท์ IP Phone โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งใช้ในการทำงาน call center โดยในแต่ละครั้ง จะมีหน้าที่ติดต่อประสานงานและนัดหมายกับลูกค้า หากลูกค้ามีการยกเลิกงานโดยไม่มีสาเหตุ ก็จะเป็นผู้ติดต่อกับพนักงานหญิงบริการ เพื่อจ่ายค่าเสียเวลาให้จำนวน ครั้งละ 500 บาท โดยนายนิตตะ รับว่าได้รับเงินจาก น.ส.อิงปวัน เพื่อใช้จ่ายในการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งนายนิตตะ รับว่าได้ค่าจ้างสัปดาห์ละ 5,000 บาทเศษ โดยไม่รวมรายได้พิเศษอย่างอื่น

ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหาดังกล่าวข้างต้นให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ทราบ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเพื่อดำเนินคดี จากการสืบสวนพบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการนี้มีส่วนพัวพันเว็บไซต์หลายเว็บไซต์ ซึ่งมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 3-4 เว็บไซต์ และยังมีผู้ดูแลด้านไอทีและพนักงาน call center รายอื่นๆ รวมถึงแอดมินสายหรือขบวนการอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าอยู่ในหรือนอกประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี

ในส่วนของอุปกรณ์โทรศัพท์ VoIP นั้น มีลักษณะลักลอบใช้คล้ายกับกลุ่มแก๊ง Call Center ใช้ พบในเบื้องต้นว่า ไม่มีหลักฐานว่าผ่านการตรวจอนุญาตจาก สำนังาน กสทช. ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ซึ่งจะต้องมีการดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องอีกส่วนต่อไป.