เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (25 ก.ย.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 247/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีการเข้าค้นบ้านพัก ของข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่และเคหสถานอื่นหลายแห่งทั่วประเทศความว่า ตามที่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังเข้าค้นบ้านพักข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และเคหสถานอื่นอีกหลายสิบแห่งในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เนื่องจากพบว่ามีข้อมูลเชื่อมโยงเส้นทางการเงินเกี่ยวกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เมื่อวันที่ 25 ก.ย. และที่จะดำเนินการต่อเนื่องไปนั้น โดยที่กรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนอย่างกว้างขวาง รวมทั้งกระทบกระเทือน ต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมอย่างรุนแรง ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายขจัดผู้มีอิทธิพล และการกระทำผิดกฎหมายต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพนันออนไลน์ ให้หมดสิ้นไปอย่างจริงจังสมควรที่สังคมจะมีโอกาสทราบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ตลอดจนพฤติกรรมและพฤติการณ์ของบุคคลผู้เกี่ยวข้อง ภายใต้หลักความโปร่งใสและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(6) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ1 ให้มีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีการเข้าค้น บ้านพักของข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่และเคหสถานอื่นหลายแห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย
1. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ
2. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด กรรมการ
3. พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ กรรมการเเละเลขานุการ

ให้ประธานกรรมการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจำนวนไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ

ข้อ 2 คณะกรรมการตามข้อ 1 มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าค้นบ้านพักข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่และเคหสถานอื่นหลายแห่งทั่วประเทศเมื่อวันที่ 25 ก.ย. และที่จะดำเนินการต่อเนื่องไป แล้วรายงานนายกรัฐมนตรีภายในสามสิบวัน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องไม่ก้าวล่วงหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวได้ตามที่เห็นสมควร ในกรณีที่จำเป็น นายกรัฐมนตรีอาจมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาตามวรรคหนึ่งออกไปอีก ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการรายงานความคืบหน้าต่อนายกรัฐมนตรีเป็นระยะทุกสิบวัน

ข้อ 3 เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามคำสั่งนี้ ให้คณะกรรมการมีอำนาจเชิญ หรือประสานขอความร่วมมือ หรือขอเอกสารต่าง ๆ จากเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบ สอบถาม หรือขอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาได้ และให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงาน ของรัฐที่ได้รับเชิญหรือขอความร่วมมือ ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการโดยถือเป็นลำดับความสำคัญเร่งด่วนที่สุด

ข้อ 4 ให้คณะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการได้รับเบี้ยประชุมตามที่กระทรวงการคลังกำหนด คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะทำงานเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อพิจารณาศึกษา หรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่คณะกรรมการมอบหมายก็ได้ โดยให้คณะทำงานได้รับค่าตอบแทนตามที่กระทรวงการคลังกำหนดเบี้ยประชุมตามวรรคหนึ่ง และค่าตอบแทนตามวรรคสอง ให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 3 รายชื่อคณะกรรมการที่นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรีเป็นคนตั้ง ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความซื่อตรงและความสามารถ

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ

อย่างนายฉัตรชัย พรหมเลิศ หรือปลัดฉิ่ง อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ชนะการเลือกตั้ง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ประเภท (ข) อันดับ 1 ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเมื่อช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าเหตุที่ได้รับการทาบทามมาเป็นประธานกรรมการ เพื่อเอามาตรวจสอบและคานอำนาจตำรวจเรื่องเส้นทางการเงิน อีกทั้งบุคคลิกนายฉัตรชัย เคยเป็นนักปกครองที่มีผลงาน ความสามารถ และมีประสบการณ์

นายชาติพงษ์ จีระพันธุ

นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด สำหรับชื่อนี้ในวงการอัยการเป็นที่รู้จักกันอย่างดี เนื่องจาก นายชาติพงษ์ ขึ้นชื่อในฝีมือเรื่องปราบการทุจริตฯ มีประสบการณ์มาก เคยนั่งรองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ และอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจ เป็นหัวหน้าคณะทำงานที่คุมคดีสำคัญของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี เช่น คดีนิติบุคคล ฟิลิป มอร์ริส นำเข้าบุหรี่โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ซึ่งขณะนี้มีกรณีพิพาท ระหว่างประเทศไทยกับประเทศฟิลิปปินส์ ในเรื่องนี้ที่องค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ, คดีทุจริต สหกรณ์เครดิต ยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเกี่ยวพันถึงคดีทุจริตฟอกเงินเครือข่ายวัดธรรมกาย, คดีธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร รวมถึงคดีทุจริตการฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน เคยเป็นกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้องคดีลูกนักธุรกิจชื่อดังขับรถชนคนตาย ที่ถูกเลือกเข้ามาเป็น 1 ใน 3 กรรมการทั้งที่ไม่ได้เป็น ก.ตร. ถือเป็นกรรมการคนกลางอย่างแท้จริงที่ถูกเลือกเข้ามาทำหน้าที่ตรงไปตรงมา เนื่องจากมีความรู้เรื่องในวงการตำรวจเป็นอย่างดี เพราะเป็นบุตรชาย พล.ต.อ.สุพาสน์ จีระพันธุ อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ปัจจุบันเป็นอัยการอาวุโส สำนักงานชี้ขาดคดีสำนักงานอัยการสูงสุด

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเป็น ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากอดีตข้าราชการตำรวจ และนายกสมาคมตำรวจ ทั้งยังเคยเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล คุมเมืองหลวง ซึ่งที่ผ่านมามีผลงานบทบาทผลักดันในเรื่องการปฏิรูปตำรวจ และออกมาสนับสนุนข้าราชการตำรวจที่ดี ไม่มีเส้น ไม่มีผู้ใหญ่หนุนหลัง ในการการพิจารณาตำแหน่ง เลื่อนขั้น ด้วยหลักคุณธรรม ความสามารถ อาวุโส และสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ก.ตร. จากข้าราชการตำรวจ แบบศาลกับอัยการ ซึ่งการถูกเลือกเข้ามาของ พล.ต.อ.วินัย เนื่องจากเป็นคนซื่อตรงและกล้าที่จะเข้ามาแก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมาเพื่ออนาคตของข้าราชการตำรวจต่อไป.