ยังคงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด สำหรับกรณี การต่อสัญญาของ ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ “ลิซ่า BLACKPINK” รวมทั้งเพื่อนร่วมวง ทั้ง จีซู, โรเซ่ และ เจนนี่ ว่าจะตัดสินใจจดปลายปากกว่าเซ็นกับต้นสังกัด “YG ENTERTAINMENT” ต่อที่หรือไม่ ท่ามกลางกระแสข่าวลือมากมาย  โดยเฉพาะของ ลิซ่า ที่บอกว่ามีหลายค่ายยักษ์ต่างแดนมาเสนอสัญญามูลค่าหลักพันล้านดอลลาร์

ล่าสุดเรื่องสัญญาของ ลิซ่า กลายเป็นประเด็นฮอตอีกครั้ง เมื่อศิลปินสาวบินเดี่ยวมากรุงปารีส ฝรั่งเศส เพื่อเตรียมโชว์สุดเซ็กซี่ร่วมกับคณะคาบาเรต์สไตล์ปารีเซียงอันเลื่องชื่อ “Crazy Horse Paris (Le Crazy Horse de Paris)” ซึ่ง ลิซ่า เดินทางมากรุงปารีสพร้อมกับคุณแม่ โดยไร้เงาการ์ดหรือทีมงานจาก YG มาดูแล ขณะที่เมเนเจอร์ของเธอเพียงแค่มาส่ง ลิซ่า ที่สนามบินเท่านั้น ยิ่งทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการตอกย้ำข่าวลือไม่ต่อสัญญาของ ลิซ่า หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ ลิซ่า มาถึงปารีส ก็มีทีมการ์ด ซึ่งดูแล้วเป็นทีมฝรั่ง มารับมากถึง 5-6 คน อีกทั้งยังดูแลและคอยกันแฟนคลับที่เข้ามารุมล้อม ลิซ่า เป็นอย่างดี และที่พีคไปกว่านั้นก็คือ เมื่อ ลิซ่า เดินมาถึงรถยนต์ที่มารับ ก็มีแฟนคลับตาดีเห็น มหาเศรษฐีหนุ่ม เฟรเดอริก อาร์โนลด์ ซีอีโอ Tag Heuer และทายาทตระกูลผู้ก่อตั้งอาณาจักร LVMH ซึ่งกำลังมีข่าวกำลังเดทกับ ลิซ่า มานั่งคอยอยู่ในรถแล้ว ซึ่งในคลิปที่แฟนคลับถ่าย ยังมีเสียงแฟน ๆ ตะโกนว่า “นั่น! เฟรเดริก” ขณะที่ชายหนุ่มในรถยนต์พยายามก้มตัวหลบแฟน ๆ อย่างน่าเอ็นดู! นอกจากนี้ยังมีตั้งข้อสังเกตว่า การ์ดที่มารับ ลิซ่า บางส่วนหน้าตาคล้ายการ์ดของครอบครัวหนุ่ม เฟรเดริก อีกด้วย

ทั้งนี้ ลิซ่า มีตารางงานเดี่ยวจะร่วมโชว์กับคณะคาบาเรต์สุดเซ็กซี่ “Crazy Horse Paris” ในวันที่ 28-30 ก.ย. นี้ ซึ่งโชว์ดังกล่าวเป็นศิลปะการแสดงที่เก่าแก่ระดับตำนาน ผสมผสานการเต้นรำ เข้ากับความเย้ายวน อีกทั้งยังมีการออกแบบท่าเต้นและเครื่องแต่งกาย รวมทั้งดีไซน์เวที และเอฟเฟกต์ แสง สี เสียง ตระการตา เมื่อนึกคำว่าคาบาเรต์หลายคนอาจคิดถึงระบำเปลื้องผ้า แต่ ณ ปัจจุบัน คาบาเรต์โชว์นั้นถือเป็นการแสดงที่ต้องใช้ทักษะขั้นสูง เพื่อถ่ายทอดความงดงาม เริ่ดหรู และเซ็กซี่สู่สายตาแฟน ๆ ซึ่ง “Crazy Horse Paris” นั้น เป็นอีกโชว์ที่อยู่ประเทศฝรั่งเศสมานาน อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในระดับโลก ซึ่งนอกจากโชว์สุดเย้ายวนแล้ว ยังมีการแสดง เช่น มายากลและละครใบ้รวมอยู่ด้วย โดยโชว์ดังกล่าวมีราคาบัตรเข้าชมสูงลิ่ว เริ่มต้นที่ประมาณ 115 ยูโร (ประมาณ 4,000 บาท) และราคาสูงที่สุดอยู่ที่ 295 ยูโร (ประมาณ 11,319 บาท)

DITA VON TEESE
Beyoncé – Partition (Explicit Video)

ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนดังมาร่วมเวทีนี้เช่นกัน อาทิ พาเมล่า แอนเดอร์สัน (Pamela Anderson) นักแสดงและนางแบบชาวแคนาดา และ ดิต้า วอน ทีส (Dita Von Teese) นักแสดงสาวสุดแซ่บ เป็นต้น อีกทั้งศิลปินตัวมัม อย่าง บียอนเซ่ (Beyoncé) ก็ยังเคยใช้สถานที่แห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทำของ MV เพลง “Partition” เมื่อปี 2013 มาแล้ว กับซีนการแสดงหนึ่งในโชว์คาบาเรต์สุดไอนิก Upside Down ที่ผสานการเต้นสุดเย้ายวนไปกับเอฟเฟคต์กระจกและแสงแบบกลับหัว เพื่อสร้างสรรค์โชว์  “bouquet of legs and harmonious curves ” อันชวนตื่นตา ขณะที่ ลิซ่า จะเป็นศิลปิน K-POP คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ขึ้นโชว์ดังกล่าว โดยหลังประกาศการแสดงของเธอออกไป บัตรก็ถูกจับจองหมดลงภายในไม่กี่นาที

ทั้งนี้ทางเว็บ  “lecrazyhorseparis” ได้บอกว่าศิลปินสาวจะร่วมโชว์ “Totally Crazy” ซึ่งจะทำการแสดงเป็นเวลานานถึง 90 นาที โดยจะโชว์ที่ทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจและเต็มไปด้วยสีสัน เปี่ยมไปด้วยความกล้าบ้าบิ่น ไร้ความเขินอาย ซึ่งเป็นการแสดงที่เด็ดเดี่ยว โมเดิร์น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคาบาเร่ต์สไตล์ปารีเซียงที่มีชื่อเสียงระดับตำนาน นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ลิซ่า ซึ่งเป็นแฟนของ Crazy Horse มายาวนาน เธอจะแปลงร่างและร่วมแสดงในฐานะ “Crazy Girl” โดยจะขึ้นโชว์ทั้งการแสดงเดี่ยว และจะมีการปรากฏตัวแสดงร่วมกับนักเต้นคณะคาบาเร่ต์โชว์ในหลากหลายโชว์ รวมถึงโชว์สุดไอคอนิก อย่าง “But I Am a Good Girl” และ “Crisis, What Crisis?”  

Crisis, What Crisis?

สำหรับ “Crisis, What Crisis?” จะเป็นการนำเสนอโชว์ที่เป็นเอกลักษณ์และมุมมองที่ไม่เคารพต่อวิกฤติทางการเงิน โดยเป็นโชว์ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากวิกฤติซัพพลาย 2008 (Sub-prime financial crisis 2008) ในสหรัฐอเมริกา หรือวิกฤติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีเครดิตต่ำ ซึ่งเป็นฉากเหตุการณ์ช็อกโลกตะวันตก เมื่อปี 2008 โดยนักแสดงนำจะรับบทประธานสาวของบริษัทข้ามชาติที่เกือบสติแตก โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนของตลาดหุ้นปารีส และเส้นกราฟฉายบนเวทีด้านหลังเธอ “ดัชนีหุ้นผันผวนขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่เสื้อผ้าก็เริ่มปลิวว่อน”  

ส่วนโชว์ “But I Am a Good Girl” เป็นหนึ่งในโชว์สุดคลาสสิกของ “Crazy Horse” ที่พาสู่ปาร์ตี้สุดบ้าคลั่ง และนำคุณเข้าถึงบทกวีแห่งความสุข กับโชว์ที่นักเต้นนั้นจะแอบจากหลังม่านวิบวับ ราวกับเล่นซ่อนหา จ๊ะเอ๋ ( Peek-a-boo) กับ Crazy Girl ก่อนเธอเผยตัวต่อผู้ชมทั้งตัว พร้อมสัดส่วนและเสน่ห์อันล้นเหลือ “ท่าเต้นที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและมีพลัง” ฟังเหมือนออกแบบมาเพื่อ ลิซ่า ผู้ที่มีทักษะการเต้นระดับตำนานจริง ๆ

ด้าน Andrée Deissenberg  ครีเอทีฟทั่วไปและผู้อำนวยการ “Crazy Horse” ได้เผยผ่าน “ELLE France” ว่า “ลิซ่าเป็นแฟนของ Crazy Horse เธอมาชมอยู่หลายครั้ง และมักเข้ามาเจอและทักทายนักแสดงสาว ๆ หลังเวทีหลังจากจบโชว์บ่อย ๆ ฉันเลยคิดว่าคงจะดี ถ้าเราทำโปรเจกต์นี้ไปด้วยกัน” โดย ลิซ่า จะเตรียมการแสดงให้กับ “Crazy Horse” ถึง 5 โชว์ และเนื่องจากเป็นสัปดาห์เดียวกันกับที่จัด Paris Fashion Week งานนี้ Andrée จึงคาดว่าน่าจะมีคนนับพันมาร่วมชมโชว์ดังกล่าว มันจะเป็นโชว์ที่สุดพิเศษ ใกล้ชิด และไม่เหมือนใคร ซึ่ง ลิซ่า มาซ้อมและทำได้ดีมาก มีความเป็นมืออาชีพมาก ศิลปินสาวใช้เวลาอยู่ในปารีสมาพักใหญ่ เราเก็บทุกอย่างเป็นความลับ โดยเฉพาะในช่วงที่ ลิซ่า มีคอนเสิร์ตในฝรั่งเศสเมื่อช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ในส่วนการแสดง ลิซ่า ยังเป็นคนออกไอเดียถึงรูปแบบในการนำเสนอแต่ละโชว์ของเธอด้วยตัวเอง

“ไอเดียหลัก ๆ คือเธอจะลองสวมบทบาทเป็นแดนเซอร์ของ Crazy Horse ได้ลองเต้นตั้งแต่ A-Z ตั้งแต่ต้นจนจบการแสดง ซึ่งไอเดียนี้เป็นความต้องการของเธอ และฉันก็คิดว่าน่าสนใจมาก เราเลือกหลายฉาก ทั้งฉากเปิดและฉากสุดท้าย รวมถึงฉากโซโล่” ครีเอทีฟคนดังกล่าว และการเลือก ลิซ่า มาร่วมงานกับ “Crazy Horse” ครั้งนี้ ทีมงานหวังว่าจะดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้รู้จักกับงานศิลปะสาขานี้มากขึ้น “สำหรับ  Crazy Horse ถือเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจ อิสระ ความสงสัยใคร่รู้ และความสบายในการได้เป็นตัวเอง ซึ่งฉันคิดว่าลิซ่าสามารถสื่อถึงสิ่งเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี!”

ภาพ และ ข้อมูล : IG lalalalisa_m, www.lecrazyhorseparis.com, www.elle.fr, NEWSEN