เมื่อวันที่ 29 ก.ย. นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคฯ เนื่องจากนายปดิพัทธ์ต้องการรักษาตำแหน่งรองประธานสภาฯ ขณะที่พรรคก้าวไกลจะได้ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ว่า  การกระทำดังกล่าวเป็นการยอมทิ้งศักดิ์ศรีสมาชิกพรรคก้าวไกลที่คนพิษณุโลกเลือกมา และเป็นการพลิ้วแบบศรีธนญชัยด้วยการไปสังกัดพรรคอะไหล่ที่มีการฮั้วกันตามแผนที่คนทั้งประเทศรู้ทันและดักคอไว้ โดยเพื่อให้คนของพรรคก้าวไกลได้ควบตำแหน่งทั้ง 2 ตำแหน่ง คือ ตำแหน่งรองประธานสภาฯ และตำแหนางผู้นำฝ่ายค้านฯ ถือเป็นการเล่นเกมการเมืองที่อัปยศและน่าอับอายยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ทั้งนี้ การที่พรรคก้าวไกลอ้างว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่และต้องการทำการเมืองแบบใหม่ กลับใช้วิธีถ่างขาและหลอกควบเก้าอี้ ส่วนข้ออ้างที่ว่าทำเพื่อเป็นฝ่ายค้านที่สมบูรณ์เป็นข้ออ้างที่ตลก เพราะเแค่นายปดิพัทธ์ลาออกจากรองประธานสภาฯ ก็จบแล้ว

นายแทนคุณ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจากกระบวนการจัดการของพรรคก้าวไกลและนายปดิพัทธ์ มีความชัดเจนแล้วว่านี่คือการฮั้วกัน คือการสมยอมในการกระจายคนยึดตำแหน่งสำคัญทั้ง 2 ตำแหน่ง ใช้เล่ห์เหลี่ยมหาช่องของกฎหมาย เล่นละคร เป็นการทรยศพรรคและทรยศประชาชนชาวพิษณุโลกหรือไม่ โดยเลือกมาไปดีลกลุ่มบุคคลบางฝ่ายบางพรรคให้สมยอมกันโดยมีการตกลงกันไว้ก่อน เพื่อให้พรรคก้าวไกลไล่ออกตามเอกสารที่แถลงการณ์เป็นหลักฐาน ซึ่งเป็นการทำให้ศักดิ์ศรีของตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ตกต่ำถึงขีดสุด ทั้งนี้ ตนจะได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบจริยธรรมร้ายแรง เพื่อช่วยเรียกศักดิ์ศรีความสง่างามของสภาฯ กลับมา

“เมื่อถูกไล่ออกจากพรรคฯ ก็ควรจะละอายใจและลาออกจากตำเเหน่งด้วย จะทำให้การเมืองโปร่งใส สง่างาม มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ไม่ต้องอับอายคนทั้งประเทศว่าถูกพรรคไล่เพราะเสพติดอำนาจ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองล้วนๆ เพราะหากนายปดิพัทธ์ลาออกไป ใครมาเป็นรองประธานสภาฯ ย่อมทำงานได้ดีกว่า และไม่มีพฤติกรรมอื้อฉาวผลาญงบประมาณรายวันแน่นอน”นายแทนคุณ กล่าว