หลังมีคำสั่งประกาศ ในปี 2566 มีข้าราชการตำรวจที่สมัครใจเข้าโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล รุ่น 24 หรือ เออร์ลี่รีไทร์ ระดับยศตั้งแต่ ด.ต.- พล.ต.ท. จำนวนทั้งสิ้น 1,407 ราย

โดยมีนายตำรวจที่น่าสนใจ อาทิ พล.ต.ท.โพธ สวยสุววรณ จตร. พล.ต.ต.กล้าณรงค์ เผือกคุ้มกฤษ ผบก.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผบก.ภ.จว.กระบี่ พล.ต.ต.สรวุฒิ เหล่ารัตนวรพงษ์ รอง พตร. พล.ต.ต.เชาวรัช สมแก้ว นายแพทย์ (สบ 6) รพ.ตำรวจ
ตะลึง! ‘ด.ต.-พล.ต.ท.’ ตบเท้าไขก็อก ยื่นเออร์ลี่รีไทร์ 1,407 ราย

โดยทุกปีจะมีตำรวจตั้งแต่ระดับ ด.ต.- พล.ต.ท. ตบเท้ายื่นขอเออร์ลี่รีไทร์ ซึ่งพบว่าปีปัจจุบันขอเออร์ลี่มากสุดเป็นประวัติการณ์

“เดลินิวส์ออนไลน์” จะพาย้อนไปดูสถิติย้อนหลัง 5 ปี ว่า แต่ละปีมีตำรวจเออร์ลี่กันกี่นาย

ปี 62 ยื่นเออร์ลี่ 933 นาย
ปี 63 ยื่นเออร์ลี่ 849 นาย
ปี 64 ยื่นเออร์ลี่ 975 นาย
ปี 65 ยื่นเออร์ลี่ 1,275 นาย
ปัจจุบัน ปี 66 ยื่นเออร์ลี่ 1,407 นาย

จากสถิติในแต่ละปี พบว่าจำนวนตำรวจขอเออร์ลี่มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งเหตุผลน่าจะมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเจ็บป่วย หรือเรื่องส่วนตัว หรือองค์กร

การเออร์ลี่ที่มากขึ้นจนน่าตกของตำรวจสะท้อนอะไรได้หลายอย่าง ซึ่งบุคคลที่ลาออกได้ให้เหตุผลไว้อย่างน่าสนใจ

ปิดฉากชีวิตตร.23ปี! ‘ร.ต.อ.’ เบื่อระบบงานสอบสวน ยุ่งยาก-ซับซ้อน ขอลาออกดีกว่า

ร.ต.อ. ตำแหน่ง รองสารวัตรสอบสวน โรงพักแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบุรี รับราชการตำรวจมากว่า 23 ปี ได้ทำหนังสือบันทึกข้อความขอลาออก โดยแจงเหตุผล เบื่อระบบงานสอบสวน ทำมากว่า 11 ปี แสนยุ่งยาก ซับซ้อน เครียดสะสม ขอย้าย 2 ครั้งก็ไม่ผ่าน

แชร์ว่อนหนังสือลาออก ‘ส.ต.อ.’ ให้เหตุผล สูญสิ้นศรัทธาในระบบตำรวจ

อีกนาย “ส.ต.อ.” ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป) สภ.เมืองสุพรรณบุรี เขียนใบลาออก โดยระบุเหตุผล หมดหวังสูญสิ้นศรัทธาในระบบข้าราชการตำรวจ ปกป้องผู้กระทำความผิด ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตไม่ได้รับการเหลียวแล

สถิติตัวเลขการยื่นขอเออร์ลี่ที่มากขึ้นในทุกปีบ่งชี้ให้เห็นถึงเหตุผลเชิงลึกของระบบองค์กรที่ล้มเหลวซ่อนอยู่

ยิ่งการสะท้อนเหตุผลของตำรวจที่ลาออก ย่อมทำให้รู้ว่ามีปัญหาเกิดขึ้นที่ไม่ได้รับการแก้ไขมาช้านาน

เมื่อเรามี ผบ.ตร. คนใหม่อย่าง “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เข้ามารับตำแหน่งแล้ว

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดการบูรณาแก้ปัญหาที่แท้จริงของตำรวจขอเออร์ลี่ได้ตรงจุด

สำหรับโครงการ “ปรับเปลี่ยนกำลังพล” เป็นโครงการพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลโดยรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งนอกเหนือไปจากโครงการเปลี่ยนเส้นทางชีวิต : เกษียณก่อนกำหนด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังพลในสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น อันจะสอดคล้องกับการลดงบประมาณหมวดเงินเดือนภาครัฐ โดยจูงใจให้ข้าราชการตำรวจลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุ ซึ่งมีหลักการเพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังพล โดยไม่มีการยุบเลิกตำแหน่ง เป็นความสมัครใจของข้าราชการตำรวจ และความเห็นชอบของหัวหน้าหน่วยต่างๆ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ข้าราชการตำรวจมีทางเลือกที่ดี และได้รับประโยชน์ตอบแทนตามที่ทางราชการกำหนด และลดงบประมาณหมวดเงินเดือนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้น และไม่ต้องเสียสิทธิประโยชน์หรือสิ่งจูงใจที่เป็นตัวเงิน.