เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีชายคนหนึ่งขับไล่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันทน์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ออกจากร้านอาหาร ระหว่างไปท่องเที่ยวพักผ่อนประเทศไอซ์แลนด์ ว่า เรื่องนี้สะท้อนความรู้สึกโกรธของประชาชนจำนวนไม่น้อยที่มีต่อบทบาทของ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ามีประชาชนที่ไม่พอใจเพราะเขารู้สึกว่าเสียงของประชาชนผ่านการเลือกตั้งไม่มีความหมาย นี่ก็เป็นพื้นฐานที่เข้าใจได้ ซึ่งมันแยกเรื่องบทบาทของส.ว. กับเรื่องนี้ไม่ออก เราจะต้องไม่พิจารณาแยกออกจากกัน แต่เราไม่อยากเห็นการเลือกปฏิบัติจากความคิดที่แตกต่างกันในทางการเมือง ทางออกคือต้องมีการแก้ไขกฎกติกาทางการเมืองเพื่อไม่ให้มีใครจะมาใช้อำนาจได้เหนือกว่าเสียงของประชาชนได้ นี่คือคงเป็นทางออก 

เมื่อถามว่ามีการแชร์ภาพชายคนที่ไล่พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เหมือนจะเป็นกองเชียร์แฟนคลับพรรคก้าวไกล ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สว.เรียกร้องให้มีการตรวจสอบให้ชัดว่าชายคนนี้เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลหรือไม่ ถ้าใช่ควรขับออกจากการเป็นสมาชิก หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ผู้ที่เลือกพรรคก้าวไกลมี 14 ล้านคน มันก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมือนกันหมด แต่แน่นอนปฏิเสธไม่ได้ว่าจุดร่วมคือประชาชนที่เขาลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และเลือกพรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับ 1 ย่อม ไม่พอใจเป็นธรรมดากับบทบาทของส.ว. แม้ว่าเราจะไม่ได้สนับสนุนให้มีการเลือกปฏิบัติจากจุดยืนในทางการเมือง แต่สว.ต้องตระหนักว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องความคิดเห็นต่างกันทางการเมือง แต่มันเป็นความไม่ไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อบทบาทของ สว. ที่เขารู้สึกว่าไม่เคารพเสียงของพวกเขา  

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าต้องทบทวนกันทุกฝ่าย ปรากฏการณ์แบบนี้เเม้อาจจะไม่อยากเห็น แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆมันจะเกิดขึ้น มามันมีที่มาที่ไป ต้องไม่พิจารณาแยกจากกันอย่างที่ตนบอกไป ไม่ว่าจะเป็นประชาชนฝั่งไหน เราก็ไม่สนับสนุน แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องของการปฏิบัติต่อคนที่มีความคิดเห็นต่างทางการเมืองแต่มันเชื่อมโยงกับบทบาทของส.ว. ที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยเห็นว่าไม่เคารพเสียงของเขาผ่านการเลือกตั้ง 

“เราไม่รู้ว่าเขาเป็นสมาชิกพรรคหรือเปล่า แม้เราจะไม่ได้สนับสนุน แต่เราก็ต้องเข้าใจว่ามันมีเหตุผลเบื้องหลังอยู่ ดังนั้นเรื่องนี้ถ้าเราไม่ปรารถนาที่จะเห็นความขัดแย้งทางการเมืองแบบนี้ ผมคิดว่าทางออกคือต้องออกแบบกฎกติกาที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าเสียงของเขาได้รับความเคารพว่าเป็นประชาธิปไตยจริงๆ”หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว  

นายชัยธวัช กล่าวถึงกรณีที่นายอดิศร เพียงเกษ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ระบุถึงการขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เพื่อให้หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นทุกขลาภ ไม่สง่างาม และเป็นก้าวไกล ลิเก หมอลำ การละคร  ว่า ไม่ว่าคำวิจารณ์จะมาจากพรรคเพื่อไทย หรือพรรคใด เราก็ยอมรับ และต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่า การตัดสินใจนี้ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของใคร ส่วนเหตุผลของพรรค เราแถลงชี้แจงรายละเอียดแล้วว่า พรรคมีความจำเป็นต้องมีสถานะเป็นฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจะมีสส.คนไหนไปเป็นรองประธานสภาฯ ไม่ได้ ตนและกรรมการบริหารพรรค ได้พูดคุยกับนายปดิพัทธ์แล้ว นายปดิพัทธ์ ยังยืนยันจะตัดสินใจว่า ต้องการดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1ต่อไป เพื่อทำตามนโยบายที่ได้เคยพูดไว้ เราก็เคารพการตัดสินใจ ไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องมีมติให้นายปดิพัทธ์ พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค ส่วนนายปดิพัทธ์ต้องพิสูจน์ตัวเองเช่นกันเมื่อตัดสินใจแบบนี้แล้ว จะสามารถปรับปรุงยกระดับการทำงานของสภาฯให้ดีขึ้นตามที่ได้ตั้งใจไว้หรือไม่ 

เมื่อถามย้ำว่าพรรคก้าวไกลไม่การละคร อย่างที่นายอดิศร บอกใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คำแถลงของพรรคก้าวไกลอธิบายเหตุผลตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว ก็ตามนั้นเลย 

นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงขั้นตอนเลือกประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตามสัดส่วนของพรรคก้าวไกล ว่า  ยังอยู่ในขั้นตอน เปิดรับให้สส.ที่มีความประสงค์ในแต่ละคณะ มานำเสนอเป้าหมาย แผนงาน วิสัยทัศน์ และสุดท้ายจะมีการเลือกกันในที่ประชุมสส.พรรคในวันที่ 3 ต.ค.โดยใช้เสียงสส.กึ่งหนึ่งในการลงมติในขั้นตอนสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ตนทราบมาว่าทางรัฐบาลจะกำหนดให้เสนอรายชื่อกมธ.กันวันที่ 4 ต.ค. และทราบมาว่า จะมีการเสนอให้แก้ไขข้อบังคับที่เกี่ยวกับชื่อและภารกิจของกมธ.บางชุดด้วย เพื่อปรับให้สอดคล้องกลับการทำงานที่มีประโยชน์มากกว่า เพราะบางชุดมันซ้ำซ้อนแล้วก็มีภารกิจที่ซ้ำกัน  

หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ตัดพ้อเรื่องการทำงาน ว่า พูดคุยกับนายณัฐวุฒิแล้ว โดยนายณัฐวุฒิยืนยันว่ายังทำงานกับพรรคต่อเเน่นอน เราคุยกันหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องทั่วไปที่อยู่ในความรับผิดชอบ นายณัฐวุฒิไม่ได้มีปัญหาขนาดนั้น อาจจะกังวลกันไปไกลเกินไป เราพูดคุยกันเเล้ว นายณัฐวุฒิก็ประสงค์ที่จะทำงานกับพรรคต่อในเรื่องภารกิจเรื่องเด็กเรื่องสวัสดิการสังคมสตรี ซึ่งในสมัยที่แล้วอาจจะยังไม่ได้ทำงานเต็มที่ เพราะรับภารกิจหลายอย่าง