การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2023 สนามที่ 14 รายการ เจแปนิส กรังด์ปรีซ์ ที่สนามโมบิลิตี รีสอร์ต โมเตกิ ในเมืองโมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ในรุ้น โมโต ทู ผลปรากฏว่า “เจ้าก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดชาวไทยจากทีมอิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีมเอเชีย ซึ่งออกสตาร์ตในตำแหน่ง โพล โพซิชั่น นำม้วนเดียวจบ ควบรถคู่ใจเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 35 นาที 19.2730 วินาที คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นแชมป์ที่ 2 ของเจ้าตัวในโมโต ทู หลังเคยได้แชมป์ในรายการที่อินโดนีเซีย เมื่อปีที่แล้ว 

ส่วนอันดับ 2 เป็นของ ไอ โอกูระ นักซิ่งชาวญี่ปุ่น เพื่อนร่วมทีมของ สมเกียรติ ทำเวลาตามหลังแชมป์ 1.353 วินาทีขณะที่อันดับ 3 เป็นของ เปโดร อคอสตา จากสเปน สังกัดทีม เรด บูลล์ เคทีเอ็ม อาโย เวลาตามหลังแชมป์ 3.080 วินาที 

จากการคว้าแชมป์ครั้งนี้ ส่งผลให้ สมเกียรติ สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ด้วยการเป็นนักบิดไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าชัยชนะได้ถึง 2 ครั้ง นอกจากนี้ “เจ้าก้อง” ยังทุบทุกสถิติที่เคยทำไว้ในรุ่นโมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ของการแข่งขันที่ โมเตกิ ด้วยการสร้างสถิติเวลาต่อรอบใหม่ (All Time Lap Record) ด้วยเวลา 1 นาที 49.898 วินาที สร้างสถิติ “เวลาต่อรอบสำหรับการแข่งขัน” ใหม่ (Best Race Lap) ด้วยเวลา 1 นาที50.679 วินาที พร้อมกับคว้าชัยชนะไปครองด้วย

หลังคว้าแชมป์ “ก้อง” สมเกียรติ กล่าวว่ารู้สึกดีใจมาก เป็นสุดสัปดาห์ที่น่าทึ้ง ขอขอบคุณแฟนกีฬาชาวไทยทุกคน ไว้พบกันในสนามต่อไปที่อินโดนีเซีย  จะคว้าแชมป์อีกให้ได้

ด้านอันดับคะแนนรวมหลังจบสนามที่ 14 ผลปรากฏว่า สมเกียรติ ซึ่งได้เพิ่มอีก 25 คะแนนนั้น ขยับคะแนนรวมขึ้นมาเป็น 114 แต้ม ขึ้นมารั้งอันดับ 6 ส่วนจ่าฝูงยังเป็น เปโดร อคอสตา มี 252 คะแนน 

ส่วนในรุ่น โมโต จีพี แชมป์สนามนี้เป็นของ ฆอร์เก มาร์ติน นักบิดชาวสเปนจากทีมพริมา ปราแมค เรซซิง ทำเวลา 24 นาที 06.3140 วินาที เป็นแชมป์สนามที่ 3 ของเจ้าตัวในปีนี้ ส่วนอันดับ 2 เป็นของ ฟรานเชสโก บันญาญา นักซิ่งชาวอิตาลี จากทีมดูคาติ เลอโนโว ทีม เวลาตามหลังแชมป์ 1.413 วินาที 

ขณะที่อันดับคะแนนรวม ฟรานเชสโก บันญาญา ยังนำเป็นจ่าฝูง มี 319 คะแนน ฆอร์เก มาร์ติน รั้งที่ 2 มี 316 แต้มอันดับ 3 เป็น มาร์โก เบซเซคคี จากอิตาลี สังกัดทีมมูนีย์ วีอาร์ 46 เรซซิง ทีม มี 265 คะแน