เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ผู้สื่อข่าวรายงาน ข้อปฏิบัติตามหลักสากลเมื่อต้องเอาชีวิตรอดจากเกิดฉุกเฉินกราดยิง คือ “หนี ซ่อน สู้” หรือ “Run Hide Fight” ซึ่งมีรายละเอียดแต่ละข้อปฏิบัติ ดังนี้

“หนี – Run” เมื่อสามารถหาเส้นทางหลบหนีที่พาไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้

-เวลาไปสถานที่ต่าง ๆ ให้จดจำทาง เข้า-ออก และทางออกฉุกเฉินให้เป็นนิสัย

-เมื่อเกิดเหตุต้องตั้งสติให้ดี และมองหาเส้นทางในการหลบหนี

-ทิ้งของทุกอย่างที่ไม่จำเป็น

-ช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่สามารถช่วยได้

“ซ่อน – Hide” เมื่อไม่สามารถหลบหนีออกจากพื้นที่ได้ ให้หาสถานที่ปลอดภัยเพื่อซ่อนตัว

-ล็อคประตูและหาสิ่งที่ของมาใช้กีดขวางคนร้ายเพื่อไม่ให้มาถึงตัว

-ซ่อนให้พ้นสายตาโดยหลบหลังสิ่งของขนาดใหญ่และแข็งแรง เช่น โต๊ะ กำแพง เป็นต้น

-ปิดไฟในห้อง และปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ

-อยู่ให้เงียบที่สุด ไม่พูดคุยหรือใช้เสียง

“สู้ – Fight” เป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อไม่สามารถหนีหรือซ่อนตัวจากคนร้ายได้ และคนร้ายกำลังจะเข้ามาถึงตัวหรือโจมตีมาที่ตน

-ร่วมกันสู้สุดกำลัง เพื่อให้มีโอกาสรอด

-ใช้การซุ่มโจมตีโดยไม่ให้คนร้ายรู้ตัว เพื่อหยุดยั้งคนร้าย

-ใช้สิ่งของทุกอย่างที่หาได้มาเป็นอาวุธ

-ใช้ทุกวิธีการที่นึกได้ ในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด

ทั้งนี้ กรณีพบเห็นหรือหากประชาชนตกอยู่ในเหตุการณ์กราดยิง หรือเหตุการณ์ที่มีการใช้อาวุธปืนต่าง ๆเบื้องต้นให้แจ้ง ได้ที่หมายเลข 191 โดยต้องมั่นใจว่าขณะโทรศัพท์แจ้งนั้นตัวเองอยู่นอกระยะการมองเห็น หรือได้ยินของคนร้าย เพื่อป้องกันการพุ้งเป้าโจมตี

สำหรับหลักสูตร Active Shooter เป็นหนึ่งในหลักสูตรที่พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.คนล่าสุดเป็นผู้ผลักดันและพัฒนาการฝึกอบรมให้เป็นที่แพร่หลาย เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญในการเตรียมการจากแนวโน้มที่มองว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้มีโอกาสเกิดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การเตรียมความพร้อมจึงจำเป็นอย่างยิ่ง และควรเป็นหลักสูตรพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้การเอาตัวรอดเบื้องต้น.