วันที่ 16 ก.ย. นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ และโฆษกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า พบการติดเชื้อภายในจังหวัดพุ่งพรวดสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์มาตั้งแต่ช่วงวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา จากคลัสเตอร์ใหม่เรือนจำชัยภูมิ หลังนำรถตรวจหาเชื้อพระราชทานจากส่วนกลางมาทำการตรวจเชิงรุก เพียงช่วง 3 วันที่ผ่านมา จากการตรวจเชิงรุกให้กับผู้ต้องขังชาย 1400 ราย และหญิง 203 ราย รวมทั้งหมด 1,503 ราย ผลการตรวจพบผู้ต้องขับมีผลเป็นบวก ผู้ติดเชื้อแล้วทั้งสิ้นแล้ว 1,178 ราย และต้องรอผลตรวจยืนยันอีกจำนวนมาก

นพ.วชิระ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทำให้สถานการณ์มีผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เพิ่มสูงขึ้นจำนวน 990 ราย แยกเป็นเฉพาะจุดเดียวภายในเรือนจำเพิ่มขึ้น 964 ราย และผู้ป่วยมาจากนอกจังหวัดเพิ่มขึ้น 12 ราย และติดเชื้อภายในจังหวัดตามคลัสเตอร์ต่างๆ ที่ยังต้องติดตามต่อเนื่องเพื่อขึ้นอีก 14 ราย กระจายอยู่ในพื้นที่รวมอีกกว่า 7 อำเภอ ที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ 3 ราย อ.บำเหน็จณรงค์ 3 ราย อ.เมืองชัยภูมิ 3 ราย อ.หนองบัวแดง 2 ราย อ.จัตุรัส 1 ราย อ.บ้านเขว้า 1 ราย และที่ อ.ภูเขียว 1 ราย ทำให้ขณะนี้ จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วยสะสมรวม 9,865 ราย เสียชีวิต 82 ราย ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ที่ยังมีผู้ป่วยมากที่สุดขณะนี้ที่เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ

ทั้งนี้คลัสเตอร์งานศพบ้านโนนจาน อ.จัตุรัส ที่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นรวมแล้วกว่า 20 ราย ซึ่งล่าสุดทางอำเภอให้มีการสั่งล็อกดาวน์ปิดหมู่บ้านจุดนี้ ห้ามคนเข้าออกแล้วอย่างน้อยเป็นเวลา 7 วัน เพื่อติดตามว่าจะมีแนวโน้มผู้ป่วยลดลงอีกได้หรือไม่

ล่าสุดทาง นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ในส่วนของการแพร่ระบาดภายในเรือนจำชัยภูมิ ขณะนี้ได้มีการเร่งดำเนินการตรวจสอบที่มาที่ไปของโรค เบื้องต้นอยู่ระหว่างเร่งสอบสวนโรค ว่าน่าจะมาจากคนเกี่ยวข้องภายในโรงงานที่จำหน่ายอุปกรณ์มาทำดางแห ตาข่าย อยู่ที่ จ.ขอนแก่น นำมาฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขัง ภายในเรือนจำชัยภูมิ แล้วส่งจากเรือนจำออกไปจำหน่าย พอมีรายได้เก็บไว้เป็นทุนหลังพ้นโทษ ซึ่งพบว่าที่โรงงานดังกล่าวที่ จ.ขอนแก่น ก็มีคนงานติดเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวนมากกว่า 100 ราย

นายวิเชียร กล่าวต่อว่า จากนี้ไปในส่วนการป้องกันการแพร่ระบาดภายในเรือนจำชัยภูมิ ได้มีการบริหารจัดการโดยให้ผู้ต้องขังที่ติดเชื้อนำเข้าสู่กระบวนการรักษา จัดให้ผู้ป่วยสีเขียวกักบริเวณรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามเรือนจำชัยภูมิ และผู้ป่วยติดเชื้อสีแดงส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยภูมิ ส่วนผู้ต้องขังใหม่ ส่งตัวไปฝากขังไว้ที่เรือนจำอำเภอบัวใหญ่ ที่ จ.นครราชสีมา ที่เป็นจังหวัดใกล้เคียงอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และในส่วน จนท.เรือนจำทุกคนที่เกี่ยวข้อง ก็ได้มีการกักตัวเข้าสู่ระบบเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่เข้มงวดทุกราย จนกว่าจะมีการเคลียร์พื้นที่ภายในเรือนจำชัยภูมิให้ปลอดเชื้อเสียก่อน

“จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันการ์ดอย่าตก และปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของจังหวัดชัยภูมิ อย่างเข้มงวดสูงสุด รวมทั้งมีการขอให้ปิดโรงเรียนสถานศึกษาทุกแห่ง คาดว่าน่าจะมีกำหนดให้เปิดเรียนได้อีกครั้งในเวลา 1 เดือนขึ้นไป หรือประมาณเดือน พ.ย.นี้ หรือหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นก็จำเป็นที่จะต้องขยายเวลาปิดเรียนเพิ่มเติมตามความเหมาะสมต่อไป” ผวจ.ชัยภูมิ กล่าว