สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ เมื่อวันศุกร์ เนรเทศเจ้าหน้าที่การทูตสองคนของรัสเซีย ประจำสถานเอกอัครราชทูตที่กรุงวอชิงตัน เพื่อตอบโต้ที่รัฐบาลมอสโกขับนักการทูตสองคนของสหรัฐ
ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ประกาศชื่อและตำแหน่งของนักการทูตชาวอเมริกันทั้งสองคน ซึ่งมีสถานะเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” และต้องเดินทางออกนอกประเทศ คือ นายเจฟฟ์ ซิลลิน และนายเดวิด เบิร์นสตีน เจ้าหน้าที่การทูตชาวอเมริกัน ประจำฝ่ายการเมือง ของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐที่กรุงมอสโก
Washington provided no arguments for its decision to expel two Russian diplomats which does not do credit to American diplomacy and is, in fact, "banal revenge," Russian Ambassador to the US Anatoly Antonov said:https://t.co/QGewOGBP8r pic.twitter.com/3dqZkRIbgD
— TASS (@tassagency_en) October 6, 2023
อนึ่ง รัฐบาลมอสโกยืนยันว่า ได้แจ้งอย่างเป็นทางการ ไปยังนางลินน์ เทรซี เอกอัครราชทูตสหรัฐ ว่าซิลลินและเบิร์นสตีน “เกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย” นั่นคือ การให้ความช่วยเหลือนายโรเบิร์ต โชนอฟ สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ ณ เมืองวลาดิวอสตอค ในข้อหา “สมคบคิดและร่วมมือด้านข้อมูลลับกับรัฐต่างชาติ” เกี่ยวกับยูเครน และสำนักงานความมั่นคงแห่งรัฐ (เอฟเอสบี) จับกุมโชนอฟ เมื่อปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ โชนอฟทำงานให้กับสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ ณ เมืองวลาดิวอสตอค เป็นเวลานานกว่า 25 ปี ก่อนต้องพ้นจากตำแหน่ง เมื่อปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลมอสโกประกาศจำกัดจำนวนบุคลากรการทูตของสหรัฐ และหากศาลพิพากษาว่า มีความผิดจริง โชนอฟอาจต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลานานถึง 8 ปี.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES