เมื่อวันที่ 12 ต.ค. สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาระบุว่า ผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีอิสราเอลอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือนายโมฮัมเหม็ด เดฟ ผู้นำกองพลน้อยอิซ อัล-ดิน อัล-กัสซาม ของกลุ่มฮามาส ขณะที่นายโมฮัมเหม็ด เดฟ สามารถหลบเลี่ยงหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลมาได้นานกว่า 30 ปี

โดยนายโมฮัมเหม็ด เดฟอยู่ในบัญชีรายชื่อ บุคคลที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของอิสราเอล กระทั้งชื่อมาปรากฎว่าอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการทางทหารเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดการสู้รบอย่างดุเดือด จนนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ออกมาประกาศสงครามกับกลุ่มฮามาส

นายออมรี บรินเนอร์ นักวิเคราะห์อิสราเอลและตะวันออกกลาง ทีมนานาชาติเพื่อการศึกษาความมั่นคงเวโรนา (ITSS) กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวทำให้ค่าหัวนายโมฮัมเหม็ด เดฟ เพิ่มขึ้น คาดว่าจะส่งผลให้ตำแหน่งทางการทหารของนายโมฮัมเหม็ด เดฟ ในฉนวนกาซา เพิ่มขึ้นตามเช่นกัน อีกทั้งปฏิบัติการนี้จะทำให้ชื่อของนายโมฮัมเหม็ด เดฟ จะคงอยู่ตลอดไป แม้จะถูกทางอิสราเอลลอบสังหารได้ก็ตาม

นายออมรี บรินเนอร์ กล่าวอีกว่า นายโมฮัมเหม็ด เดฟ เป็นคนที่รอดจากการถูกลอบสังหารมาหลายครั้ง และเป็นผู้รอดชีวิตมากสุดในการต่อต้านของชาวปาเลสไตน์ และสามารถหลบเลี่ยงหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลได้อย่างต่อเนื่องทำให้ได้ฉายาว่า “ชายผู้มีเก้าชีวิต”

ทั้งนี้ ทางสหรัฐอเมริกา ยังเคยประกาศให้นายโมฮัมเหม็ด เดฟ เป็นผู้ก่อการร้ายสากล ตั้งแต่ปี 2558 ถือเป็นตัวแทนของภัยคุกคามโดยตรงและต่อเนื่องต่อความมั่นคงของอิสราเอลมานานกว่า 30 ปี ส่วนเคล็ดลับการเอาตัวรอด ของนายโมฮัมเหม็ด เดฟ คือการซ่อนตัว โดยภาพถ่ายของ นายโมฮัมเหม็ด เดฟ ที่เคยอย่างเป็นทางการพบว่ามีเพียงภาพเดียวที่เคยเผยแพร่ มีอายุมากกว่า 20 ปี และคาดว่าเมื่อปี 2549 นายโมฮัมเหม็ด เดฟ อาจสูญเสียการมองเห็น แขน และขา อย่างละข้างจากเหตุการณ์การโจมตีของอิสราเอล

ภาพ AFP