สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่า นายหวัง อี้ รมว.การต่างประเทศจีน สนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าชายไฟซาล บิน-ฟาร์ฮาน อัล-ซาอุด รมว.การต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า สิ่งที่อิสราเอลกำลังปฏิบัติต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา “มากเกินขอบเขตของการป้องกันตัวเอง”


หวังกล่าวต่อไปว่า อิสราเอลควรรับฟังเสียงเรียกร้องจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และประชาคมโลก ในการยุติปฏิบัติการโจมตีต่อประชาชนในฉนวนกาซา และขอให้คู่กรณีทุกฝ่ายเจรจากันโดยเร็วที่สุด

ขบวนรถหุ้มเกราะของกองทัพอิสราเอล บริเวณภูมิภาคทางตอนใต้ ใกล้กับฉนวนกาซา


ถ้อยแถลงดังกล่าวถือว่า เป็นการใช้ถ้อยคำแข็งกร้าวที่สุดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดทางการทูตของรัฐบาลปักกิ่ง เกี่ยวกับความรุนแรงของการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งปะทุเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา


อนึ่ง หวังสนทนาทางโทรศัพท์กับนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย ว่า “มีความเสี่ยง” ที่การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส “จะขยายวงกว้างจนยากเกินควบคุม” แม้จีนถือว่า “เป็นสิทธิอันชอบธรรม” ของทุกประเทศ ที่จะปกป้องอธิปไตยของตัวเอง แต่การใช้มาตรการใดก็ตาม ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน


นอกจากนี้ หวังเน้นย้ำจุดยืนของจีน สนับสนุนหลักการสองรัฐ ที่ดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติของอิสราเอลและปาเลสไตน์ และเรียกร้องกลุ่มประเทศมหาอำนาจ ตลอดจนกลุ่มประเทศขนาดใหญ่ “มีความเป็นธรรม การรักษาสันติสุขและความอดกลั้น” ตลอดจนการเป็นผู้นำ ในการผดุงไว้ซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศ.

เครดิตภาพ : AFP