สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่า กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการอพยพประชาชนทั้งหมด ซึ่งอาศัยอยู่ภายในรัศมี 2 กิโลเมตร จากแนวพรมแดนทางเหนือของประเทศ ที่ติดกับภาคใต้ของเลบานอน เนื่องจากสถานการณ์รุนแรง ที่มีการยิงปืนใหญ่และจรวดตอบโต้กันเป็นระยะ ระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ คำสั่งดังกล่าวครอบคลุมประชาชนหลายพันคน ในชุมชน 28 แห่ง

ทหารอิสราเอลเคลื่อนพลไปประจำการ ยังพื้นที่ทางเหนือของประเทศ ใกล้กับพรมแดนทางตอนใต้ของเลบานอน


การปะทะระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้นไม่นาน หลังกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดต่ออิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา แม้นายโยอาฟ กัลลันต์ รมว.กลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า “ไม่มีความสนใจ” ที่จะทำสงครามกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ หลังเคยสู้รบกันอย่างหนักหน่วงมาแล้ว เมื่อปี 2549 แต่หากอีกฝ่ายเลือกที่จะเข้าสู่สงคราม อิสราเอล “พร้อมตอบโต้อย่างสาสม” หากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ไม่เคลื่อนไหว อิสราเอลจะอยู่เฉยเช่นกัน


ทั้งนี้ สถานการณ์รุนแรงรอบใหม่ บนแนวชายแดนระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต แบ่งเป็น ทหารอิสราเอลอย่างน้อย 5 นาย นักรบปาเลสไตน์อย่างน้อย 5 ราย สมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อย่างน้อย 4 ราย พลเมืองเลบานอนอย่างน้อย 2 ราย พลเมืองอิสราเอลอย่างน้อย 1 ราย และผู้สื่อข่าวคนหนึ่งของสำนักข่าวรอยเตอร์ส.

เครดิตภาพ : AFP