สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ว่า กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ต่อเป้าหมายมากกว่า 100 แห่ง ในฉนวนกาซา เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สามารถสังหารนายอัมจัด มาเจด มูฮัมหมัด อาบู โอเดห์ หนึ่งในแกนนำของกลุ่มฮามาส ที่ร่วมวางแผนโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค.


ขณะเดียวกัน เป้าหมายการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอลรอบนี้ ยังรวมถึง ฐานปฏิบัติการ กองกำลังทางอากาศของกลุ่มฮามาส ศูนย์บัญชาการ คลังแสง และโครงข่ายอุโมงค์ใต้ดิน


ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า “จำเป็น” ต้องทิ้งระเบิดใส่มัสยิดแห่งหนึ่ง ในเขตจาบาลิยาของฉนวนกาซา เนื่องจากกลุ่มฮามาสใช้เป็นศูนย์บัญชาการและซุกซ่อนอาวุธ แต่ไม่ได้กล่าวถึงความเสียหาย ซึ่งเกิดขึ้นกับโบสถ์ออร์โธดอกซ์แห่งหนึ่งในฉนวนกาซา

เด็กหญิงสองคนมองเจ้าหน้าที่ค้นหาผู้สูญหาย ภายใต้ซากปรักหักพังของอาคาร ซึ่งพังถล่มเพราะการทิ้งระเบิดของเครื่องบินรบอิสราเอล ที่เมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา


ด้านกลุ่มฮามาสประณาม การที่อิสราเอลโจมตีศาสนถานหลายแห่งในฉนวนกาซา และประกาศ “การระดมพลครั้งใหญ่ทั่วโลก” โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลาง เพื่อต่อต้านอิสราเอลและสหรัฐ

เครื่องบินขับไล่เอฟ-15 ของกองทัพอากาศอิสราเอล บินในเขตน่านฟ้าใกล้กับฉนวนกาซา


นอกจากนี้ กองทัพอิสราเอลสั่งอพยพประชาชนทั้งหมด ในเมืองเคอร์ยัต ชโมนา ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งติดกับภาคใต้ของเลบานอน เนื่องจากการปะทะตามแนวชายแดน ระหว่างทหารอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ทางใต้ของเลบานอน และเป็นพันธมิตรกับกลุ่มฮามาส ทวีความรุนแรงคู่ขนานไปกับการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส


สถานการณ์รุงแรงข้ามพรมแดนระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน ยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลให้กับหลายฝ่าย ว่าบริเวณนี้จะเป็นแนวรบที่สองของอิสราเอล โดยผู้เสียชีวิตจากการปะทะระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์รอบนี้ อยู่ที่อย่างน้อย 3 ราย ในอิสราเอล และอย่างน้อย 20 รายในเลบานอน รวมถึง ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ส และพลเรือน 2 ราย.

เครดิตภาพ : AFP