สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 24 ต.ค. โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวในรัฐบาลเกาหลีใต้ ว่ากองทัพเกาหลีใต้สกัดเรือโดยสารขนาดเล็กลำหนึ่ง ซึ่งทำด้วยไม้ นอกชายฝั่งเมืองซ็อกโช ที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศ ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 115 กิโลเมตร เมื่อวันอังคาร หลังตรวจพบ “กิจกรรมผิดปกติ” บริเวณแนวจำกัดตอนเหนือ (เอ็นแอลแอล) ในทะเลตะวันออก


ทั้งนี้ ผู้โดยสารบนเรือมีทั้งสิ้น 4 คน ทุกคนเป็นชาวเกาหลีเหนือ และเบื้องต้นแสดงความประสงค์ขอลี้ภัยในเกาหลีใต้ ซึ่งจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป


ด้านรัฐบาลและกองทัพเกาหลีใต้ ยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน พ.ย. 2562 ที่เกาหลีใต้ตรวจพบผู้ลี้ภัยเกาหลีเหนือลักลอบข้ามพรมแดน ผ่านทางทะเลตะวันออก


อนึ่ง กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้แสดงความวิตกกังวลโดยตรงไปยังทางการจีน เมื่อต้นเดือนนี้ เกี่ยวกับรายงานโดยองค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่ง ซึ่งระบุไปในทางเดียวกัน ว่า รัฐบาลปักกิ่งผลักดันผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือ “จำนวนมาก” ให้เดินทางกลับประเทศ เนื่องจากถือเป็นความเสี่ยง ว่ากลุ่มผู้ลี้ภัยจะเผชิญกับการเลือกปฏิบัติ และการกดขี่อย่างร้ายแรง


ข้อมูลของรัฐบาลเกาหลีใต้ระบุด้วยว่า การส่งกลับผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือของจีน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลเปียงยางผ่อนคลายมาตรการควบคุมพรมแดน หลังดำเนินการเข้มงวดสูงสุดมานานกว่า 3 ปี นับตั้งแต่การแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19


นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ “โชซอน อิลโบ” ของเกาหลีใต้ รายงานว่า จีนส่งกลับผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือประมาณ 600 คน เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่องค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมน ไรต์ส วอตช์ รายงานว่า ตามข้อตกลงพรมแดนระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือ ฉบับปี 2529 พลเมืองเกาหลีเหนือไม่มีสิทธิลี้ภัยหรือตั้งรกรากในจีน และต้องถูกผลักดันกลับสถานเดียว.

เครดิตภาพ : AFP