เมื่อวันที่ 24 ต.ค. พ.ต.ต.นิพนธ์ อินทรกุล สว.สส.สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งว่าพบศพเสียชีวิตมาแล้วหลายเดือน ภายในบ้านเลขที่ 326/12 หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยเนินพลับหวาน หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว มีเนื้อที่ประมาณ 40 ตารางวา โดยถูกปล่อยรกร้าง รอบๆ บริเวณถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ต้นหญ้าจำนวนมาก ประตูบ้านถูกล็อกจากด้านในอย่างแน่นหนา เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯใช้คีมตัดประตูกรงเหล็ก แล้วปีนเข้าไปตรวจสอบ พบศพผู้หญิงไทยสภาพเปลือยกาย นอนตายอยู่หน้าประตูบ้าน เสียชีวิตมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน จนสภาพศพเริ่มแห้ง จนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก โดยตำรวจ พบบัตรประชาชน และ สันนิษฐานว่าเป็นของผู้เสียชีวิต คือ นางนงลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี เป็นเหรัญญิก องค์การตรวจสอบอำนาจรัฐ (อ.ต.ร.) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ตรวจสอบภายในบ้าน ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อทรัพย์สิน โดยพบเต่าอังโล่ 1 เตา และ ถังก๊าสหุงต้มขนาด 15 กก. ถูกปล่อยก๊าสออกจนหมดเกลี้ยงถัง วางอยู่กลางห้องโถงของบ้าน เบื้องต้น ตำรวจตรวจสอบประวัติผู้ตายพบว่าเคยพยายามก่อเหตุรมควันฆ่าตัวตายเมื่อเดือนเม.ย. 66 ที่ผ่านมา แต่ครั้งนั้นเพื่อนบ้านและกู้ภัยช่วยชีวิตไว้ได้ทัน

สอบถาม 2 เจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้มาพบศพเป็นคนแรก ให้การว่า ได้รับมอบหมายจากทางธนาคารให้มาสำรวจบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากถูกขายเข้าทอดตลาดเมื่อไม่นานที่ผ่านมา เมื่อมาถึงพบว่าบ้านถูกปล่อยรกร้างจึงเปิดประตูรั้วเข้าไปตรวจสอบ แต่เมื่อไปถึงปากประตูบ้านก็ถึงกับช็อก เมื่อพบศพนอนตายอยู่ปากประตูถึงกับวิ่งหนีป่าราบ ออกจากบ้านแทบไม่ทัน และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ทางด้านเพื่อนบ้านข้างๆ เล่าว่า รู้สึกตกใจมาก และ ไม่รู้ว่าตัวเองนอนเฝ้าศพคนตายมานานกว่า 3 เดือน ตอนแรกคิดว่าผู้ตายเดินทางไปต่างจังหวัดเพราะเห็นครั้งสุดท้าย เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ 3 วัน เพิ่งจะคนมาถามว่าบ้านหลังนี้ขายเท่าไหร่ และเคยมีคนตายหรือไม่ ก่อนที่จะมาพบศพเพื่อนบ้านเสียชีวิต อีกทั้งเพื่อนบ้านรายนี้พยายามจะฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง

ขณะที่ พ.ต.ต. นิพนธ์ อินทรกุล สว.สส.สภ.หนองปรือ กล่าวว่า เบื้องต้นสันนิษฐาน ว่าผู้ตายเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายเอง ด้วยวิธีมมควันและรมแก๊ส แต่อย่างไรก็ตามจะส่งศพให้สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ทำการผ่าชันสูตรพลิกศพ พร้อมทั้ง ตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป.