สำนักข่าวเดอะ สตาร์ และเอเชีย นิวส์ รายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ว่า แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย เมื่อวันจันทร์ (5 ก.ค.) ระบุว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ ซี.37 (C.37) หรือที่รู้จักกันในชื่อ แลมบ์ดา ซึ่งพบครั้งแรกเมื่อเดือน ธ.ค. 2563 ที่ประเทศเปรู ในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงที่สุดในโลก เมื่อเทียบอัตราประชากร ถูกตรวจพบในกว่า 30 ประเทศ ในระยะ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา

กลุ่มประเทศที่ตรวจพบการติดเชื้อแลมบ์ดา รวมถึง สหราชอาณาจักร ตรวจพบ 6 ราย นักวิทยาศาสตร์แสดงความวิตกว่า ไวรัสแลมบ์ดามีความร้ายแรงในการติดเชื้อ มากกว่าไวรัสเดลตา หรือไวรัสสายพันธุ์อินเดีย และมีภูมิต้านทานวัคซีนมากกว่าไวรัสชนิดอื่นๆ รวมถึงไวรัสแกมมา และไวรัสอัลฟา รายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส ระบุว่า ประมาณ 80% ของผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ใหม่ในเปรู เป็นเชื้อไวรัสแลมบ์ดา

All you need to know about the new Coronavirus strain. (photo:ianslife)

การศึกษาวิจัยของคณะนักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิลี ในกรุงซันติอาโก เพื่อตรวจสอบผลกระทบของไวรัสแลมบ์ดา ที่มีต่อคนงาน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโคโรนาแวคของจีน 2 เข็ม พบว่า ไวรัสแลมบ์ดาสามารถติดเชื้อได้รวดเร็วและรุนแรงกว่าไวรัสแกมมาและไวรัสอัลฟา และสามารถหลบหลีกสารภูมิต้านทาน ที่ผลิตโดยวัคซีนต้านโควิด-19 ได้ดีกว่า

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ไวรัสแลมบ์ดามีการเปลี่ยนแปลงหลากหลายรูปแบบ ทำให้มันแพร่เชื้อได้ง่าย และมีฤทธิ์ต้านทานโปรตีนต่อต้านเชื้อโรคในร่างกายมนุษย์ โปรตีนหนามที่ไวรัสแลมบ์ดาใช้ในการแพร่เชื้อสู่เซลล์ของมนุษย์ มีรูปแบบกลายพันธุ์เป็นเอกลักษณ์จำเพาะ ถึง 7 รูปแบบ

จากข้อมูลทางการแพทย์ของชิลี ประมาณ 10 % ของผู้ติดเชื้อแลมบ์ดาเสียชีวิต โดยอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่เกือบ 600 คน ต่อประชากรทุกๆ 100,000 คน.

เครดิตภาพ – Getty Images, YouTube, Ianslife

เครดิตคลิป – news.com.au