เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 30 ต.ค. ที่ ห้องประชุม สน.ชนะสงคราม พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ต.ปรเมษฐ์ ดวงแก้ว สว.ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.1 นายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร และผู้ประกอบธุรกิจบนถนนข้าวสาร ร่วมกันประชุมการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร เนื่องในงาน Khaosan Halloween2023 ภายใต้คอนเซ็ปท์ Beauty or Scary “สวยหรือสยอง” บนถนนข้าวสาร จากนั้นได้เดินเท้าตรวจสถานบันเทิง ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มตบแต่งสถานที่ Halloween ตลอดเส้นทาง เกิดความแตกต่าง สร้างสรรค์ให้นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายภาพเพื่อเป็นจุดเช็กอิน
พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนดูแลความปลอดภัยในทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนเป็นหลักรวมถึงป้องกันเหตุอัคคีภัย อีกทั้งตั้งจุดคัคกรอกตรวจค้นพลุไฟ ยาเสพติด และอาวุธต่างๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดอันตราย พร้อมวางกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วภายในงานป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท พร้อมตั้งจุดกองอำนวยการร่วมประสานงานร่วมกัน นอกจากนี้หากเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ติดตั้งป้ายไวนิลสีแดงขนาดใหญ่คำว่า EXIT เป็นทางออกฉุกเฉิน 3 ทาง ได้แก่ ซ.ร้านบาร์เนคดอร์ ซ.ร้านท่าช้าง ซ.ข้าวสารเซ็นเตอร์ รวมถึงเตรียมรถดับเพลิงและรถพยาบาลไว้ เพื่อเตรียมความพร้อมกับขบวนพาเหรดผีจากกลุ่มศิลปินจาก idol exchange กว่า 50 วง รวมถึงขบวนผีสวยจากทูตการท่องเที่ยวและทูตการกีฬา Miss Tourism World Thailand และที่จะมาสร้างความสนุกสนาน สร้างจุดแลนด์มาร์คเพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้เกิดการจดจำที่ดีกลับไป
กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) ภายใต้การอำนวยการ ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีมาตรการสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในช่วงวัน “ฮาโลวีน”
โดย พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวบูรณาการร่วมกับตำรวจท้องที่ตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธร , กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ,หน่วยงานเอกชนสมาคมมัคคุเทศก์ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีจุดคัดกรองตรวจอาวุธ ,ยาเสพติด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนต่างประเทศ เช่น เหยียบกันตาย ด้านสถานที่ท่องเที่ยวปิดหรือสถานบันเทิง
ส่วนเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องถูกต้องตามกฏหมาย ,เมาแล้วไม่ขับ นอกจากนี้ยังเตรียมแผนเผชิญเหตุ รวมถึงเส้นทางในการอำนวยความสะดวกนำส่งโรงพยาบาล ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มีการเตรียมพร้อมสำหรับแผนในการรับมือรวมถึงการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและยังมีระบบคอลเซ็นเตอร์ 1155 ไว้คอยดูแลนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง
