สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ปฏิเสธข้อเรียกร้องของทุกฝ่ายทั้งในและต่างประเทศ ในการหยุดยิงกับกลุ่มฮามาส ซึ่งทำสงครามกันตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา


เนทันยาฮูกล่าวว่า หากอิสราเอลยอมรับข้อเสนอและเงื่อนไขหยุดยิง จะเท่ากับเป็นการ “ยอมจำนน” ให้กับกลุ่มฮามาส และกิจกรรมก่อการร้าย ดังนั้น สงครามจะดำเนินต่อไป “จนกว่าอิสราเอลจะเป็นฝ่ายชนะ” และประณามกลุ่มฮามาสเป็น “องค์กรก่อการร้าย” ที่ใช้ประชาชนในฉนวนกาซาเป็นโล่มนุษย์ พร้อมทั้งยื่นคำขาดว่า อีกฝ่ายต้องปล่อยตัวประกันราว 200 คน “โดยไม่มีเงื่อนไข”

กลุ่มควันจากการยิงจรวดโดยกลุ่มฮามาส ที่ยิงออกจากภาคเหนือของฉนวนกาซา มายังเมืองเซอร์ฮอต ทางตอนใต้ของอิสราเอล


ขณะที่นายจอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันมองการหยุดยิง “ยังไม่ใช่คำตอบ” เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ ณ เวลานี้ แต่น่าจะเป็น “การพักรบ” เพื่อให้มีการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านทางอียิปต์ ให้เข้าสู่ภาคใต้ฉนวนกาซามากขึ้น


ทั้งนี้ สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซามากกว่า 8,000 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 21,000 คน ส่วนในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 5,400 คน


นอกจากนี้ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 110 ราย ในเขตเวสต์แบงก์ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 1,800 คน และสมาชิกกลุ่มฮามาสเสียชีวิตมากกว่า 1,500 ราย.

เครดิตภาพ : AFP