หลังจากที่ตัดสินใจจะบวชในวันที่ 2 พ.ย. ที่จะถึง โดยจะโกนผม และบวชเป็นเวลา 14 วัน ที่วัดศรีบุญเรือง ติ๊นา ศุภนาฏ ได้มาเปิดใจผ่านรายการคุยแซ่บโชว์ถึงสาเหตุในการตัดสินใจบวชครั้งนี้ ยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมาเจอดราม่าค่อนข้างหนัก และที่เพิ่งได้บวชก็เพิ่งจะเคลียร์งานหมด ยืนยันไม่ได้บวชหนีดราม่า เผยจุดดิ่งในชีวิตกับคอมเมนต์แย่ๆ ไล่ให้ไปตาย

ติ๊นา เผยว่า “บวชที่วัดศรีบุญเรือง เราเป็นลูกศิษย์วัดนี้เลย นับถือหลวงพ่อเณร เคารพเหมือนพ่อคนนึงเลย คือท่านทักเราแบบถ้ามีเหตุการณ์อะไรบางอย่าง อย่างที่พ่อแม่เสียปลายเดือน ท่านจะทักมาต้นเดือน ว่าใช้เงินให้ระมัดระวัง เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร ท่านทักมาเพื่อจะให้เราเข้าไปหาท่าน แต่ด้วยความเป็นเด็ก ก็เที่ยวเล่นอยู่ ก็ไม่ได้เข้าไป พอปลายเดือนพ่อแม่เสียชีวิต ท่านก็มาเฉลยว่าพยายามเตือนเราแล้วนะ เป็นเรื่องที่จำฝังใจ และตอนแรกตั้งใจจะบวช 1 อาทิตย์ แต่พ่อเณรบอกให้บวช 2 อาทิตย์ เราเลยบอกจัดไป และที่ตัดสินใจบวช ต้องบอกก่อนปีที่ผ่านมีหลายเรื่องราว ล่าสุดกับเหตุการณ์ที่ผิดพลาดจากตัวเราเอง ติ๊นาอยากจะเป็นคนในเวอร์ชั่นใหม่ และมีสติมากกว่าเดิม การที่เราบวชคราวนี้ อยากบวชให้คุณพ่อคุณแม่ด้วย เหมือนเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ และเหตุการณ์ล่าสุด มันเหมือนเป็นการเตือนว่าถ้าเราใช้ชีวิตแบบไม่มีสติ ประมาทอีกครั้ง ชีวิตคุณสำคัญมากนะ ก่อนหน้านี้เราไปถือศีล 8 บวชชีพราหมณ์ แต่ยังไม่โกนหัว มากสุดก็ 3 วัน 2 คืน แต่บวชครั้งนี้คือโกนหัวเลย ที่โกนหัวก็มันดิ่งแบบ ต้องย้อนกลับไปจนหนังเรื่องแรกจนวันนี้ 13 ปีแล้ว ที่ผ่านมา เรายังไม่เจอแบบคนที่มาว่าเราเยอะ แบบเหตุการณ์ของปีที่แล้ว มากขนาดนี้ ทำให้เราดาวน์มากขนาดนี้ มันโหดมากๆ เราพยายามมองโลกในแง่บวกมาโดยตลอด เราไม่ได้อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น เวลาเราดิ่งมากๆ ปกติเราก็ปรึกษาหมออยู่แล้ว เราใช้หลายวิธีมาก การไปอยู่กับเพื่อน เข้าวัด สวดมนต์ ทำทุกทาง แต่สุดท้ายแล้ว จริงๆ พยายามหาความสุขรอบๆ ตัว แต่จริงๆ ความสุขมันเกิดขึ้นจากใจเราเอง ถ้าใจไม่สงบ อยู่ที่ไหนก็ไม่ช่วย เพราะหนักสุดคือคอมเมนต์แย่ๆ มันเยอะอยู่แล้ว เราหนีการอ่านคอมเมนต์พวกนี้ไม่ได้หรอก เรานั่งอ่านไปเรื่อยๆ มีคอมเมนต์ที่เราจำได้แม่นเลยว่า ทำไมไม่ตายตามพ่อแม่ไปเลย”

“มันกลับให้เราย้อนกลับไปว่าเราจะอยู่ไปทำไม (เสียงเริ่มสั่น) เราก็ไม่ใช่ดีขนาดนั้นนิ มันทำให้เรารู้สึกแย่ หรือเราแย่แบบนั้นจริงๆ ที่บอกว่าหนีดราม่า ได้เห็น แต่เรามานั่งคิด ดราม่ามันเกิดขึ้น เมษายน จริงๆ เรามีความคิดจะบวชมานาน แต่เวลาไม่ได้ ถ้าบวชตอนนั้นก็ไม่ได้ เรายังเคลียร์อะไรไม่เสร็จ แต่ใจเราอยาก ถ้าเราหนีจริงๆ หลังจากเกิดเหตุการณ์เราต้องไปบวชเลยใช่ไหม ซึ่งเราไม่ได้อยากหนีปัญหา คิดเลยว่า ตอนพ่อแม่เสีย ตอนเราอายุ 25 เรายังไม่รู้เลยว่าเรามีปัญหาเพราะอะไร เรารู้สึกว่าเป็นเด็กคนนึงที่ใช้ชีวิตสบายๆ อยากไปเที่ยวไหนก็ได้ แม้เราใช้ชีวิตเหมือนเดิม แต่ทำไมเราไม่มีความสุขเลย เราคิดวนๆ ความสุขคืออะไร จนวันนี้ยังไม่รู้เลย ความสุขคืออะไร พอเราหันหลังกลับไปเรารู้สึกว่าเราไม่มีใคร เมื่อก่อนเรามีแฟมิลี่เดย์ แต่พอเขาไม่อยู่ เราเหมือนขาดอะไร วันพ่อวันแม่ เราเลื่อนฟีดไป (น้ำตาไหล) เราเห็นคนอื่นลงกับพ่อแม่ เราแอบอิจฉา ทำไมเราไม่มีเวลามากกว่า เราไม่อยากลงรูปเลย กว่าจะหมดวัน เราไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย”

ติ๊นา เล่าต่อว่า “หลังๆ ชีวิตมีเป๋ไป ยังหาทางให้กับตัวเองไม่ได้ ไปแฮงก์เอาต์กับเพื่อน อยู่คนเดียวไม่ได้ สมัยก่อนเราพูดไม่คิด ทำไมรนๆ หมดเลย เพราะเราเป็นคนทำอะไรสุดไปเลย เอาจริงๆ ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าความสุขแท้จริงคืออะไร กำลังตามหาความหมายของมัน เราบวชวันที่ 2 เราไม่ได้คิดว่าเราเป็นผู้ชาย เราเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงที่อยากบวช เพื่ออยากให้เราสงบจริงๆ อยากไปอยู่กับตัวเอง มีสติมากขึ้น ต้องได้เรียนรู้อะไรบ้าง ตลอดเวลาที่พ่อแม่ไม่อยู่ เจอคอมเมนต์ลบจนคิดสั้นก็มีบ้างค่ะ มันเจอเหตุการณ์หนักจริง จะทำยังไงให้มันไปแบบสบายที่สุด ก็เสิร์ชกูเกิล ว่าวิธีไหนที่จากไปแบบสบายที่สุด มันเกิดขึ้นหลายครั้งในเวลาที่เราดิ่งมากๆ แต่หนูก็กลัวเจ็บ กลัวทรมาน (ร้องไห้) และวิธีง่ายที่สุดนอนในรถ รมควันตัวเอง ซึ่งเราก็คิดว่ามันยาก เราก็อยู่กับตัวเอง สิ่งที่ผ่านมาได้คือเวลาฮีลใจเรามาก และวันที่เกิดเรื่อง พี่หนิงฮีลใจเรามาก เพราะคำพูดที่พูดว่า เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องพูดในวันนั้น อาจจะพูดก็ต่อเมื่อเวลามันช่วยเราฮีลใจ และพี่หนิงยกตัวอย่างเรื่องตัวเองมากับดราม่าที่ผ่านมา พี่หนิงเขาสตรอง เขาผ่านดราม่ามาได้ เขาช่วยเราดึงสติ ขนาดพี่หนิงผ่านมาได้ เราก็ต้องผ่านมาได้”

“จุดประสงค์หลักที่บวช ตั้งแต่เขาเสียไป ไม่เคยขออะไรพ่อแม่เลย เราจะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไรลูกนะ หนูเป็นลูกคนเล็ก หนูจะทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องเป็นห่วง คืออยากให้เขาไปภพภูมิที่ดี ไม่ต้องเป็นห่วงเรา แต่บางทีก็แอบร้องไห้ เจอจุดที่อ่อนแอมากๆ ร้องไห้เอาหมอนปิดหน้า หรือเอาผ้าอุดปากแล้วกรี๊ด เคยไม่มีสติถึงขั้นกรี๊ด ถามป๊าม้าว่าตายไปทำไม ทำไมถึงทิ้งหนูไว้ให้อยู่คนเดียว พอเราระบาย พอเราคิดได้ดึงสติ ก็บอกว่าแค่เสียใจ เรามีสติแล้ว ก็จะพยายามทำตัวให้ดีขึ้น สิ่งที่อยากบอกกับทุกคน (ยกมือขอโทษ) ติ๊นาขออโหสิกรรมกับทุกๆ คนที่เคยทำให้ไม่สบายใจ หรือทุกข์ใจ ที่ทำให้เดือดร้อน และที่ทำให้เกิดประเด็นดราม่า หลายคนคงรู้ดีว่าคือใคร ก็ขอโทษ ขออโหสิกรรมตรงนี้ ติ๊นาขอโทษแฟนคลับที่ติ๊นาทำให้ผิดหวัง (เสียงสะอื้น) ขอโทษและขออโหสิกรรม ขอเชิญทุกคนมาร่วมบุญกัน”