สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ว่ากองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ ว่าได้โจมตีทั้งทางบกและทางอากาศ ข้ามพรมแดนไปยังภาคใต้ของเลบานอน เพื่อทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้ที่อีกฝ่ายโจมตีฐานประจำการของกองทัพอิสราเอล 19 แห่ง ภายในระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมง


ทั้งนี้ สื่อของทางการเลบานอนรายงาน ว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย จากปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของอิสราเอล ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์รายงาน ว่ามีสมาชิกเสียชีวิตอีกอย่างน้อย 4 ราย


นับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ทางตอนใต้ของเลบานอน ปะทะข้ามพรมแดนอย่างต่อเนื่องกับอิสราเอล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในเลบานอนแล้ว 71 ราย ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และมีผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์สด้วย ส่วนในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย ส่วนใหญ่เป็นทหาร

ทหารรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ รักษาการบริเวณหมู่บ้านเดอีร์ คิฟา ทางตอนใต้ของเลบานอน ซึ่งติดกับภาคเหนือของอิสราเอล


ในทางทฤษฎีถือว่าอิสราเอลและเลบานอนยังมีสถานะเป็นประเทศคู่สงครามต่อกัน เนื่องจากการสู้รบครั้งใหญ่ ที่ยาวนานประมาณ 1 เดือน เมื่อปี 2549 ไม่ได้ยุติด้วยข้อตกลงสันติภาพ แต่เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี)


นอกจากนี้ หลายฝ่ายมองว่าในความเป็นจริง การสู้รบครั้งนั้น คือสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มากกว่า ต่อมาทหารรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตามแนว “เส้นสีน้ำเงิน” ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน.