เมื่อวันที่ 6 พ.ย. พ.ต.ท.พลวัต โพธิ์ฉัตร รอง ผกก.ป.สน.บางคอแหลม ได้รับแจ้งเหตุเด็กหญิงกระโดดสะพานกรุงเทพ ลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงประสานนำเรือของ สน.บางคอแหลม ออกไปช่วยโดยมี ร.ต.ท.สมศักดิ์ เภาหว่าง รอง สวป.สน.บางคอแหลม เป็นผู้ขับเรือออกจาก สน.บางคอแหลม จนไปเจอผู้ประสบเหตุลอยคว่ำหน้าอยู่ จึงได้รีบช่วยเหลือขึ้นมาไว้ยังท่าน้ำ สน.บางคอแหลม เมื่อขึ้นฝั่งได้กู้ชีพได้ปั๊มหัวใจประมาณ 40 นาที แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบทราบชื่อ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน กทม. สภาพเนื้อตัวซีดอยู่ในชุดพละของโรงเรียน ส่วนบนสะพานกรุงเทพพบกระเป๋าเป้สีดำ โทรศัพท์มือถือและรองเท้าผ้าใบสีขาว จึงรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐาน พร้อมกับเชิญพ่อ-แม่เลี้ยงเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาเหตุจูงใจในการก่อเหตุดังกล่าว

ด้าน น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี แม่เลี้ยงเล่าให้ฟังว่า “น้องเอ” เป็นลูกสาวของภรรยาเก่าสามี เดิม “น้องเอ” อาศัยอยู่กับแม่ที่จ.ชุมพร แต่กลับมีเรื่องสลดเกิดขึ้น เมื่อ “น้องเอ” ถูก”น้าเขย” ข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบถึงอายุ 14 ปี ทั้งยังใช้ให้ทำงานในสวนอย่างหนัก ต้องหาอาหารกินเอง ส่วนแม่แท้ ๆ ไม่เคยสนใจเลี้ยงดู วัน ๆ เอาแต่ดื่มเหล้าแล้วก็ปล่อยให้ลูกสาวถูกกระทำไปเรื่อย ขณะที่ฝ่ายน้าเขย เพิ่งได้ประกันตัวในคดีดังกล่าวมาได้ไม่นาน ทำให้เด็กต้องย้ายออกจากพื้นที่ ตนและสามีจึงไปรับมาเลี้ยงและให้ย้ายมาเรียนใน กทม.

โดยเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ทุกอย่างดูราบรื่นดี “น้องเอ” ไปเรียนตามปกติ สามารถเข้ากับเพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ช่วงคืนที่ผ่านมา “น้องเอ” มาบ่นเปรย ๆ กับพ่อว่า อยากไปเรียน กศน. เพราะเรียนไม่รู้เรื่องจริง ๆ ไม่เหมือนตอนอยู่ที่ จ.ชุมพร จากนั้นก็หลับนอนตามปกติ รุ่งเช้าแต่งตัวไปเรียน “น้องเอ” ดูแปลกไปคือมาบอกว่า “หนูขอกอดหน่อย” จากนั้นก็ขึ้นรถเมล์ไปเรียน กระทั่งทางโรงเรียนแจ้งว่า “น้องเอ” ไม่ได้มาเรียนและทราบข่าวว่าไปกระโดดน้ำเสียชีวิตแล้ว.