นับว่าเป็นอีกหนึ่งโปรเจ็กต์การคอลแลปที่ถูกพูดถึงในขณะนี้ เมื่อซุปตาร์หนุ่มสุดฮอตในบ้านเราอย่าง ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี ได้ทำงานร่วมกับศิลปินในวงการที่ตนเองชื่นชอบอย่าง วิโอเลต วอเทียร์ พร้อมโอกาสที่ได้ทำงานร่วมกับศิลปินชื่อดังชาวฟิลิปปินส์อย่าง Zack Tabudlo ในเอ็มวี Turn Back Time เพลงรักชวนใจสลาย ที่พูดถึงความรักของคนคู่รักตั้งแต่วันเริ่มต้น ไปจนถึงวันที่ทั้งคู่ตัดสินใจจบความสัมพันธ์ เพื่อแยกย้าย และเติบโตในเส้นทางของตัวเอง

โดยเอ็มวีเพลงนี้ ได้ถ่ายทำด้วยฟิล์มหนัง Kodak ทั้งหมด ด้วยเวลาการทำที่จำกัด ดังนั้น การแสดงในแต่ละซีน เรียกว่าต้องเล่นให้คมซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งงานหินของเขาก็ว่าได้ วันนี้เราเลยพาไปเจาะลึกในแต่ละซีน กับการทำงานในเอ็มวีเพลงของหนุ่มไบร์ทกัน

ไบร์ท เล่าถึงเอ็มวีดังกล่าวและคาแรคเตอร์ที่เจ้าตัวได้รับอย่างอารมณ์ดีว่า“ในเอ็มวีผมรับบทเป็นนักเขียนที่มีความฝัน แต่ดัน ขี้อาย พอวันหนึ่งเราบังเอิญได้มาเจอและรู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง เราก็ประทับใจในตัวเขา เพราะเขาสดใสมาก ทำเอาเราตกหลุมรักทันที เวลาผ่านไปเราต่างเติบโต และมีเส้นทางความฝันที่แตกต่างกัน ระยะห่างตรงนี้มันก็ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ อย่างช้าๆ แบบที่เราก็คาดไม่ถึง ทั้งที่ในความสัมพันธ์นั้นเราพยายามปรับจูนเข้าหากันแล้ว มันก็ไม่เวิร์คสักที สุดท้ายเลยเป็นการตัดสินใจร่วมกันว่างั้นเราแยกย้ายกันไปเพื่อเติบโตดีกว่า”

“เอาจริงๆ Element ในเอ็มวี มันมีหลายเรื่องราวมากๆ มันมีทั้งตอนช่วงทุกข์ และช่วงสุขที่ต้องถ่ายสลับกันไป และบทนักเขียนนี้ก็ Relate กับชีวิตผมเหมือนกันนะเพราะผมเองก็กำลังทำตามความฝันของตัวเองอยู่ ผมมีเป้าหมายเหมือนๆ พระเอกในเอ็มวีเลย และมันมีซีนดราม่าด้วย โดยส่วนตัวผมค่อนข้างจะตื่นเต้นมากๆ เวลาใกล้จะถึงซีนดราม่าที่เราต้องถ่ายมันทำให้ผมต้องโฟกัสกับสิ่งๆ นี้มากเป็นพิเศษ มันเหมือนเราต้องเข้าใจ Background ของตัวละครนี้ก่อนด้วย แต่ผมโชคดีมากๆ ที่ได้พาร์ทเนอร์ทางการแสดงอย่างวี เขาเก่งมากๆ สำหรับผมและทำให้ทุกอย่างราบรื่นขึ้นด้วย ตอนเราเข้าซีนดราม่าด้วยกัน ในกองจะเปิดเพลงคลอๆ เพื่อบิ้วท์อารมณ์ผม และวี ตอนนั้นผมเริ่มดิ่งแล้วหละ กำลังเข้าสู่โหมดการตัดสินใจที่ยากลำบากใจวีเขาเข้ามาหาผมนะ เราพูดคุยกันพักหนึ่ง สลับกับรับส่งอารมณ์ มันเลยออกมาเป็นแบบที่ทุกคนเห็นในเอ็มวีเลยครับ”

ไม่เพียงเท่านี้ ไบร์ท ยังแชร์ให้เราฟังด้วยว่า เขาชอบเนื้อร้องในท่อนฮุค ที่ร้องว่า “what did I do this time didn’t I really try gave all my love all turned to dust I’m losing my mind I’d rather have all the fights than all of the sleepless nights everything’s rushed I know I just lost a piece of mine why can’t we turn back time” ที่แปลว่า “ครั้งนี้ฉันทำอะไรลงไป ไม่ใช่ว่าฉันไม่พยายาม มอบความรักทั้งหมดที่มีให้ แต่มันกลายเป็นเพียงฝุ่นผง ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว ฉันเลือกให้พวกเราทะเลาะกันยังดีกว่าการนอนไม่หลับในทุกๆ คืน ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าได้สูญเสียอีกครึ่งชีวิตของฉันไปแล้ว ทำไมเราถึงย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้วนะ” ที่ทำเอาเจ้าตัวบอกว่าพอได้ฟัง และเรื่องราวที่กำลังจะถ่ายทอดออกมามันอยู่ตรงหน้า ยิ่งทำให้อิน และเข้าถึงอารมณ์ได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ไบร์ท ได้แชร์ซีนที่เขาชอบมากๆ อย่างซีนที่เขากับ วี นอนเล่นหยอกล้อกันบนเตียง ตามประสาคนรัก มู้ดที่ออกมาคือคนที่มีความสุขมากๆ ดูรักกันจริงๆ เราสองคนดูเข้ากันได้ดีมาก เป็นซีนที่ดีมากสำหรับเขา และซีนนี้เองส่งผลให้ ไบร์ท  ถ่ายทอดซีนดราม่าออกมาได้ดิ่งสุดๆ เจ็บปวดสุดๆ เพราะเขาทิ้งท้ายตรงนี้ไว้ว่า “มันมีความสุขมาก มันก็เลยเจ็บปวดมากเหมือนกัน ตอนที่ค่ายเพลง ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค ประเทศไทย ติดต่อมาให้เล่นเป็นพระเอกเอ็มวีร่วมกับวี ผมไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธงานนี้เลย เพราะส่วนตัวเรารู้จักกันในมุมของงานอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้ทำงานร่วมกันสักที ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆส่วน Zack ผมมองเขาเป็นน้องชายคนหนึ่งเลยครับ เขาน่ารัก เฟรนลี่ ตอนแรกผมยังไม่เจอเขานะ แต่พอมาฟังเพลงของเขาที่ผ่านๆ มา ผมรู้สึกชอบในตัวเขาชอบในเนื้อเสียงของเขา และตอนนี้พวกเราก็เหมือนเพื่อนสนิทกันไปแล้วครับ”

แฟนๆสามารถติดตามข่าวสารรอบโลกได้แล้ววันนี้ที่ www.dailynews.co.th และทุกแพลตฟอร์มของ Dailynews